“ซัมซุง” เตือนกำแพงภาษีจ่อทุบกำลังซื้อสมาร์ตโฟน

“ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของเกาหลีใต้ เตือนว่า มาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เผชิญความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันกำลังซื้อสมาร์ตโฟนก็อาจเผชิญแรงกดดันเชิงลบในไตรมาส 2 ของปีนี้
คำเตือนของผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดของโลกสะท้อนถึงความไม่แน่นอนด้านการค้าโลก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศสงครามการค้า
“ซัมซุง” ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมโมรีชิปรายใหญ่สุดของโลกด้วย รายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพียงร้อยละ 1.2 อยู่ที่ 6.7 ล้านล้านวอน เนื่องจากลูกค้ากังวลเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่างแห่ซื้อสมาร์ตโฟนและชิป ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชะลอตัวลง
การที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราที่สูง ประกอบกับความเข้มงวดในการขายชิป AI ไปยังจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของ “ซัมซุง” มีแนวโน้มจะกระทบต่อความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนที่บริษัทผลิต อาทิ ชิปและจอแสดงผลสมาร์ตโฟน
นอกจากนี้ ภาษีตอบโต้แบบถ้วนหน้า (reciprocal tariff) ที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับ 185 เขตเศรษฐกิจ รวมถึงเวียดนามและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ “ซัมซุง” ผลิตสมาร์ตโฟนและจอแสดงผล ก็เป็นแรงกดดันเชิงลบเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม “ซัมซุง” กำลังพิจารณาจะย้ายการผลิตโทรทัศน์และเครื่องใช้ในบ้าน เพื่อตอบสนองต่อภาษีดังกล่าว