สรท.ค้านใช้ท่าเรือ A แหลมฉบัง ห่วงเพิ่มต้นทุนโลจิสติกส์
กรุงเทพฯ 17 ก.ค.63-นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้ยื่นหนังสือต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ทบทวนและเลื่อนการบังคับใช้ประกาศการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรื่องให้เรือชายฝั่งรับตู้สินค้าขาเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังดำเนินการบรรทุกตู้สินค้าลงเรือ ที่ท่าเทียบเรือชายฝั่ง A มีผลบังคับใช้ 15 ก.ค. ซึ่งประกาศดังกล่าวกำหนดให้เรือขนส่งชายฝั่งที่มารับตู้สินค้าขาเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องใช้บริการท่าเทียบเรือชายฝั่ง A เป็นลำดับแรก ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบด้านต้นทุน และประสิทธิภาพในการให้บริการของผู้ให้บริการขนส่งชายฝั่ง สายเดินเรือระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าเอกชนในแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ส่งออกนำเข้าสินค้า
นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า ประกาศฉบับนี้ทำให้ต้นทุนการขนส่งโดยรวมสูงขึ้น 228 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากการขนส่งสินค้าชายฝั่งของตู้ขาเข้าที่ต้องใช้บริการท่าเทียบเรือชายฝั่ง A นั้นจะมีค่าภาระยกตู้ซ้ำซ้อน เรือชายฝั่งจะเสียเวลารอคอย และเกิดต้นทุนแก่เจ้าของสินค้า นอกจากนี้ยังขัดกับนโยบายการ Shift Mode ของภาครัฐ ตามที่ภาครัฐให้การสนับสนุนการใช้ขนส่งชายฝั่ง โดยการสร้างท่าเทียบเรือเฉพาะเรือชายฝั่งที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง
นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวของการท่าเรือฯ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อภาพรวมการค้า ก ารขนส่ง และโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศไทย กอปรกับช่วงเวลาในการบังคับใช้ประกาศฉบับนี้อยู่ในสภาวะซึ่งเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบรอบด้าน จึงขอให้มีการพิจารณาทบทวนเลื่อนการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวออกไป และให้การท่าเรือฯ หารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ครอบคลุมในทุกด้าน และเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับการขนส่งรูปแบบอื่นเพื่อให้ได้อัตราค่าบริการที่เหมาะสมและแข่งขันได้ ตลอดจนให้นำมาตรการทางการตลาดและมาตรการส่งเสริมอื่นมาใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจในการใช้บริการท่าเทียบเรือชายฝั่ง A และสนับสนุนการขนส่งสินค้าชายฝั่ง และเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของประเทศไทย