"Geely" หยุดสร้างโรงงานใหม่ทั่วโลก รับมือวิกฤตกำลังผลิตล้น l การตลาดเงินล้าน

Geely Auto หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศหยุดแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ทั้งในและนอกประเทศ เพื่อตอบสนองต่อภาวะกำลังการผลิตล้นตลาดโลก ซึ่งกำลังกลายเป็นความท้าทายใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคเปลี่ยนผ่าน

บริษัทระบุว่ากำลังเปลี่ยนโฟกัสไปยังการยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เผชิญแรงกดดันจากสงครามราคาภายในประเทศอย่างหนัก

ข้อมูลจากสื่อจีนเผยว่า ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น BYD, Geely และ Leapmotor ต่างปรับลดราคาของรถยนต์มากถึงร้อยละ 20 เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ขณะที่รายงานของ JPMorgan ระบุว่าระดับส่วนลดเฉลี่ยในจีนพุ่งขึ้นจาก ร้อยละ 8.3 ในปี 2024 เป็นร้อยละ 16.8 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ลี ซูฝู ประธานกรรมการของ Geely กล่าวในงาน Chongqing Auto Show ว่าบริษัทจะไม่สร้างกำลังผลิตเกินความจำเป็น และพร้อมใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตที่มีอยู่ทั่วโลก เช่น การใช้โรงงานของ Renault ในบราซิลเพื่อรองรับแผนการขยายตลาดระหว่างประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของ Geely อาจส่งสัญญาณให้ผู้ผลิตรายอื่นทบทวนแผนลงทุนเช่นกัน เพื่อป้องกันปัญหาสต๊อกล้นตลาดและการแข่งขันด้านราคารุนแรงเกินควบคุม

ในปี 2024 Geely Auto ส่งมอบรถยนต์จำนวน 2.18 ล้านคัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 32 จากปีก่อนหน้า โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 888,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 92 ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนโดยรวมมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ของยอดส่งมอบทั้งหมดในปีเดียวกัน

ทั้งนี้ Geely ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Zeekr, Lynk & Co และ Galaxy รวมถึงถือหุ้นในบริษัทรถยนต์ระดับโลกอย่าง Volvo และ Daimler ผู้ผลิต Mercedes-Benz ผ่านบริษัทแม่ Zhejiang Geely Holding Group

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 33 ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของจีน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25 ในช่วงสองปีก่อน สะท้อนถึงบทบาทของจีนในตลาดโลกที่ยังคงเติบโต