อนาคตบิทคอยน์ อาจจะเป็นทองคำยุคดิจิทัล

ในอดีต เวลาโลกการเงินเผชิญความผันผวนหรือเกิดวิกฤต ทองคำมักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นสินทรัพย์อันดับแรกที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกพักเงินไว้ในฐานะ “สินทรัพย์ปลอดภัย” ความน่าสนใจของทองคำคือความมั่นคงยามตลาดการเงินสั่นคลอน โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยแท้จริงลดลง ทองคำมักปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อที่หลั่งไหลเข้ามา
แต่ในโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และการเงิน สินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งกลับเริ่มฉายแววขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ นั่นคือ “บิทคอยน์” สินทรัพย์ดิจิทัลที่เคยถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง วันนี้เริ่มมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากเดิม และน่าจับตามองในฐานะ “ทองคำแห่งยุคดิจิทัล” ล่าสุด รายงานจาก Citi Research ระบุว่า บิทคอยน์อาจไม่ได้เป็นแค่สินทรัพย์เสี่ยงอีกต่อไป แต่เริ่มถูกนักลงทุนพิจารณาให้มีที่ยืนในพอร์ตลงทุนในยามเกิดวิกฤต
สิ่งที่ทำให้บิทคอยน์แตกต่างและน่าสนใจคือ ความสามารถในการให้ผลตอบแทนในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยแท้จริง “เพิ่มสูงขึ้น” ซึ่งตรงกันข้ามกับทองคำที่มักเงียบเหงาในช่วงเวลาดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ในเหตุการณ์ตลาดผันผวนหลายครั้ง เช่น การล่มของธนาคาร Silicon Valley Bank หรือความตึงเครียดในตลาดพันธบัตรช่วงปลายปี 2023 บิทคอยน์กลับสร้างผลตอบแทนได้อย่างแข็งแกร่ง จนนักวิเคราะห์บางคนเริ่มตั้งคำถามว่า บิทคอยน์อาจไม่ใช่แค่ทางเลือกของคนกล้าเสี่ยงอีกต่อไป
แม้บิทคอยน์จะยังไม่สามารถนิยามตัวเองได้ว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” แบบทองคำ เพราะยังมีความผันผวนสูง และอายุในตลาดการเงินยังสั้น แต่พฤติกรรมของมันกลับเริ่มเปลี่ยนไปจากกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด รายงานจาก Citi Research ชี้ว่าบิทคอยน์มีลักษณะคล้าย “สินค้าโภคภัณฑ์” อย่างพลังงานหรือโลหะพื้นฐาน ซึ่งมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเมื่อเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป หรือเกิดความตึงตัวด้านการเงิน
สิ่งที่ทำให้บิทคอยน์แข็งแกร่งในช่วงเวลาเหล่านั้น มาจากสองปัจจัยสำคัญ คือ “อุปทานที่จำกัด” และ “ความนิยมจากนักลงทุนในยามเกิดวิกฤต” ที่ต้องการทั้งโอกาสและการป้องกันความเสี่ยงในคราวเดียว นอกจากนี้ ผลตอบแทนของบิทคอยน์ยังสวนทางกับทองคำในบางจังหวะ เช่น ทองคำจะโดดเด่นเมื่อดอกเบี้ยและเงินเฟ้อลดลง ขณะที่บิทคอยน์กลับเร่งตัวในช่วงที่ดอกเบี้ยและเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง