ผู้แทนฯ สหรัฐฯ ห่วงแผนงบทรัมป์กระทบศักยภาพ NASA ในการป้องกันดาวเคราะห์น้อย

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม คณะกรรมาธิการด้านอวกาศ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมหารือกับนักวิทยาศาสตร์ในประเด็นสำคัญว่า NASA จะสามารถรับมืออย่างไร หากพบดาวเคราะห์น้อยอันตรายที่อาจพุ่งชนโลก
การหารือนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 ซึ่งเคยถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นภัยต่อโลก ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่าไม่เป็นอันตราย
ประเด็นหลักของการประชุม คือ โครงการสำรวจวัตถุใกล้โลก (Near-Earth Objects – NEO) โดยเฉพาะภารกิจ NEO Surveyor ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อค้นหาดาวเคราะห์น้อยที่อาจเป็นภัยคุกคาม
อย่างไรก็ตาม ภารกิจนี้อาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้ ลดงบประมาณ NASA ลง 24% สำหรับปีงบประมาณหน้า และตัดงบโครงการวิทยาศาสตร์ถึง 47% ซึ่งถือเป็นการปรับลดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของหน่วยงาน
ภารกิจ NEO Surveyor คืออะไร ?
NEO Surveyor ได้รับการออกแบบให้ทำงานคู่กับโครงการก่อนหน้าอย่าง DART (Double Asteroid Redirection Test) ซึ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบเปลี่ยนวิถีของดาวเคราะห์น้อย Dimorphos ที่โคจรรอบ Didymos
โดยทั้งสองไม่มีความเสี่ยงต่อโลก แต่เป็นการพิสูจน์แนวคิด หากอนาคตพบ NEO ที่มีแนวโน้มพุ่งชนโลก NEO Surveyor จะมีบทบาทในการตรวจจับเป้าหมายล่วงหน้า เพื่อให้ภารกิจอย่าง DART สามารถเข้าแทรกแซงได้ทันท่วงที
หนึ่งในจุดเด่นของ NEO Surveyor คือ การใช้กล้องอินฟราเรด ซึ่งสามารถตรวจจับ “ความร้อน” ของวัตถุในอวกาศได้ แม้จะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ หรือมีพื้นผิวที่ไม่สะท้อนแสง กล้องชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิธีตรวจจับด้วยแสงสะท้อนตามปกติ เช่น ในกรณี ดาวเคราะห์น้อยเชเลียบินสค์ ที่พุ่งเข้าสู่บรรยากาศโลกจากทิศทางของดวงอาทิตย์ในปี 2013 โดยไม่สามารถตรวจจับได้ล่วงหน้า และสร้างความเสียหายอย่างหนักในรัสเซีย
เอกสารงบประมาณเบื้องต้นของปี 2026 ระบุว่า การลดงบอาจทำให้ NASA ต้องปิดศูนย์วิจัยสำคัญ เช่น ศูนย์การบินอวกาศ Goddard ในรัฐแมริแลนด์ และอาจส่งผลต่อศูนย์ Ames ในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประเมินภัยจากอวกาศ หากศูนย์เหล่านี้ต้องปิดตัว องค์ความรู้ที่สะสมมาอาจสูญหาย และลดทอนศักยภาพของสหรัฐฯ ในการให้คำปรึกษาด้านการจัดการภัยพิบัติฉุกเฉินระดับประเทศ
ความเห็นเพิ่มเติมจากผู้แทนฯ สหรัฐฯ
วาเลอรี ฟูชี (Rep. Valerie Foushee) สมาชิกสภาผู้แทนฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวอย่างชัดเจนว่าการตัดงบเช่นนี้อาจทำให้ NASA สูญเสียบทบาทสำคัญในเวทีโลก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ ความมั่นคง และความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี
โซอี ลอฟเกรน (Rep. Zoe Lofgren) ส.ส. จากแคลิฟอร์เนีย เตือนว่าแผนการของทรัมป์ เช่น การลดพนักงานหรือเปิดโครงการให้ลาออกโดยสมัครใจ กำลังสร้างภาวะ “สมองไหล” ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของรัฐบาลกลาง
จอร์จ ไวท์ไซด์ (Rep. George Whitesides) อดีตเจ้าหน้าที่ NASA กล่าวว่า การติดตามและป้องกันดาวเคราะห์น้อยคือ “ภัยธรรมชาติที่ป้องกันได้ 100%” หากมีการเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ทบทวนบทบาทของ NASA และให้การสนับสนุนภารกิจที่มีผลต่อความปลอดภัยระดับโลก
นิโคลา ฟ็อกซ์ (Nicola Fox) ผู้ช่วยผู้ดูแลฝ่ายปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของ NASA สรุปในช่วงท้ายว่า หากทำเนียบขาวยังคงเดินหน้าตัดงบ NASA อย่างที่เสนอไว้ องค์การอาจต้องหันไปพึ่งพันธมิตรระดับนานาชาติ เพื่อรักษาความสามารถในการติดตาม NEO ที่อาจเป็นภัยในอนาคต