Neuralink เตรียมทดลองปลูกถ่ายชิปฟื้นฟูการมองเห็นในมนุษย์ภายในปีหน้า

บริษัท นิวราลิงก์ (Neuralink) ซึ่งก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ เตรียมเริ่มการทดลองปลูกถ่ายอุปกรณ์สมองกับมนุษย์สำหรับฟื้นฟูการมองเห็นในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า โดยตั้งเป้าให้สามารถเขียนข้อมูลภาพโดยตรงเข้าสู่สมอง แม้ในผู้ที่ตาบอดสนิท

มัสก์เปิดเผยข้อมูลนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Y Combinator บริษัทบ่มเพาะสตาร์ตอัป (Startup accelerator) ชั้นนำของโลกว่า “เรากำลังจะปลูกถ่ายชิปฟื้นฟูการมองเห็นเป็นครั้งแรกในมนุษย์ แม้ผู้ป่วยจะตาบอดอย่างสมบูรณ์ เราก็สามารถส่งข้อมูลเข้าสู่คอร์เทกซ์การมองเห็นได้โดยตรง”

บริษัท นิวราลิงก์ (Neuralink) ได้ทดสอบอุปกรณ์ดังกล่าวกับลิงแล้ว โดยมีการปลูกถ่ายไว้นานถึง 3 ปี แม้ในระยะแรกภาพที่เห็นจะมีความละเอียดต่ำ แต่มัสก์ยืนยันว่าคุณภาพจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคตจะสามารถมองเห็นย่านคลื่นแสงนอกเหนือจากที่ตามนุษย์ปกติรับรู้ได้ เช่น รังสีอินฟราเรด รังสีอัลตราไวโอเลต และคลื่นเรดาร์

เขาเสริมว่าชิปที่มีชื่อว่า “Blindsight” นี้ อาจทำให้ผู้ใช้งานมีความสามารถด้านการมองเห็นเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับมี “พลังเหนือมนุษย์”

อย่างไรก็ตามชิปที่มีชื่อว่า “Blindsight” ยังอยู่ในระยะการพัฒนาและยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบจากบริษัท แต่เชื่อว่ามันอาจมีคุณสมบัติในการการเขียนข้อมูลภาพตรงเข้าสู่คอร์เทกซ์การมองเห็น (Visual Cortex) ของสมอง แม้ผู้ป่วยจะตาบอดสนิท

ก่อนหน้านี้ นิวราลิงก์ (Neuralink) เคยประสบความสำเร็จครั้งสำคัญจากการฝังอินเทอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ หรือ BCI (Brain-Computer Interface) กับ โนแลนด์ อาร์บอห์ (Noland Arbaugh) ชายวัย 29 ปี ผู้ป่วยอัมพาตจากอุบัติเหตุทางกระดูกสันหลัง ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายจากช่วงไหล่ลงไปได้

อาร์บอห์กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการปลูกถ่ายชิปสมองของ Neuralink ซึ่งทีมแพทย์ได้ฝังอุปกรณ์ขนาดเล็กภายในกะโหลกศีรษะ โดยมีเส้นใยไมโครอิเล็กโทรดบางเท่าผมมนุษย์เสียบเข้าสู่สมองบริเวณที่ควบคุมการเคลื่อนไหว จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือความสามารถในการอ่านสัญญาณประสาทในสมองแบบเรียลไทม์ แล้วแปลงเป็นคำสั่งเพื่อควบคุมอุปกรณ์ภายนอก เช่น คอมพิวเตอร์หรือแขนกล

ความสำเร็จนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยี BCI ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูความสามารถให้ผู้ป่วยอัมพาตเท่านั้น แต่ยังปูทางสู่อนาคตที่มนุษย์อาจสามารถเชื่อมสมองเข้ากับระบบดิจิทัลได้โดยตรง เพื่อใช้ในการสื่อสาร การทำงาน หรือแม้แต่การเรียนรู้