BPPอัดฉีด700ล้านดอลล์ ขยายลงทุนไฟฟ้าสหรัฐ

#BPP #ทันหุ้น-BPP วางงบลงทุน ปี 2567-2569 ราว 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายธุรกิจพลังงานไฟฟ้า CCGTในสหรัฐ และใช้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เผยไตรมาสแรกกวาดรายได้ 6,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,822 ล้านบาท QoQ และมีกำลังการผลิต ณ สิ้น ไตรมาส 1/2567 รวมทั้งหมด 3,656 เมกะวัตต์

นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในช่วงปี 2567-2569 บริษัทได้วางงบลงทุนในการขยายธุรกิจไว้ที่ราว 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยงบลงทุนราว 90%  จะใช้ในการขยายพลังงานไฟฟ้าคุณภาพผ่านโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (Growth in Quality Megawatts CCGT) โดยเน้นตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอให้แก่บริษัท และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเทคโนโลยี CCGT ที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE)

เเละส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี (Energy Infrastructure and BESS) พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน อาทิ ระบบสายส่งไฟฟ้า (Electricity Transmission System) โดยมุ่งเน้นโครงการที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที

*Q1 กำลังการผลิต3,656 MW

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวมจำนวน 6,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,822 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 81 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 1,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 318 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เเละมีกำลังการผลิต ณ สิ้น ไตรมาสที่ 1/2567 รวมทั้งหมด 3,656เมกะวัตต์

โดยเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple l และ Temple ll ในสหรัฐ ผนวกกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ( CHP) และโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (SLG) ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนที่ลดลงจากการบริหารต้นทุนที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ

สำหรับโรงไฟฟ้า Nakoso ในญี่ปุ่นได้กลับมาดำเนินงานอีกครั้งหลังปิดซ่อมบำรุงราว 1 ปี ในช่วงกลางเดือน มีนาคมส่วนทางด้านโรงไฟฟ้าในลาว (HPC) โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) จ.ระยอง ยังถือว่ามีผลการดำเนินงานที่ดี

*ลุยธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน

ด้านธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานซึ่งบริษัท ลงทุนผ่าน บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของธุรกิจแบตเตอรีและระบบกักเก็บพลังงาน (Battery & Energy Storage System Solutions: BESS) โรงงานผลิตแบตเตอรีลิเธียมไอออนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บ้านปู เน็กซ์ และ เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์และส่งมอบแบตเตอรีให้กับลูกค้าในประเทศไทยมากกว่า 20,000 ชุด  โดยมีเป้าหมายการผลิตรวม 60,000 ชุดต่อปี

อีกทั้งโรงงานประกอบแบตเตอรีดีพี เน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ยังได้ผลิตและส่งมอบแบตเตอรีชุดแรกให้กับ “เชิดชัยมอเตอร์เซลส์” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย และล่าสุดบ้านปู เน็กซ์ได้ยังได้นำเสนอโซลูชันพลังงานสะอาดที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนด้วยการเปิดตัวโครงการ Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT เฟสที่ 2  ณ อาคารจามจุรี สแควร์ ในรูปแบบป๊อปอัพคาเฟ่ที่มีระบบโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรีกักเก็บไฟฟ้าในตัว ด้านโครงการบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติโซนซี คาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 4/2567