รีเซต

มาแน่! แบรนด์ EV สัญชาติไทย CHERY จับมือ ภาครัฐไทย l การตลาดเงินล้าน

มาแน่! แบรนด์ EV สัญชาติไทย CHERY จับมือ ภาครัฐไทย l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
19 พฤษภาคม 2568 ( 12:54 )
15

ในงานแสดงความพร้อมด้านเทคโนโลยี หรือ TECH DAY ของบริษัท CHERY Automobile ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย ได้มีการประกาศความร่วมมือระหว่างบริษัท เชอรี ออโตโมบิล และ บริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ภายใต้การสนับสนุนจากภาครัฐของไทย ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กระทรวง อว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ กระทรวงพาณิชย์

โดยจะเป็นการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาใหม่จากทั้ง 2 บริษัท และการผลิตจะใช้ โลคอล คอนเทนต์ หรือ ใช้ชิ้นส่วนจากภายในประเทศ กว่าร้อยละ 50 ตามข้อมููล เบื้องต้น จะผลิตรถใหม่ 3 ตัวถัง ได้แก่ รถตู้ (รถแวน) เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะมีรุ่นย่อยออกมา 4-5 รุ่น, ถัดมาคือ รถกระบะ และสุดท้ายคือ รถเอสยูวี ซึ่งทั้งหมดจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน และจะทำตลาดในไทยโดยเฉพาะ 

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมามากนัก รวมถึงชื่อแบรนด์ ก็ยังไม่ได้เปิดเผย แต่ความชัดเจน จะมีขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 หรือต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ (2568)

อย่างไรก็ตาม ระหว่าง เชอรี กรุ๊ป และบริษัท คิง เจน ได้มีการร่วมลงทุนในการก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ที่จังหวัดระยอง มาก่อนแล้ว ส่วนการพัฒนาแบรนด์รถยนต์ใหม่ ที่เป็นแบรนด์สัญชาติไทยนั้น เป็นความคิดริเริ่มของทาง คิงเจน แต่จะมีการพัฒนาแบรนด์ร่วมกันจากทั้ง 2 ฝ่าย ภายใต้เป้าหมาย ที่ต้องการสร้างระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้ครอบคลุม เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต

ด้าน คุณ ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่การพัฒนารถยนต์ใหม่เท่านั้น แต่ทางเชอรี กรุ๊ป ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์มายาวนาน สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยี และสร้างบุคลากรร่วมกันได้ ตลอดจนสนับสนุนการสร้างเครือข่ายอีวีซัพพลายเออร์ ซึ่งทื่ผ่านมายังไม่มีใครเข้ามาทำแบบจริงจังในจุดนี้ บริษัทฯ จึงเห็นโอกาส ในการผลิตรถยนต์ของคนไทย โดยใช้ ฟาซิลิตี้ ที่บริษัทฯ มีอยู่

โดย เชอรี ออโตโมบิล ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2540 หรือกว่า 30 ปีที่ผ่านมา และยังทำตลาดในต่างประเทศมานานกว่า 20 ปีแล้ว มีการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 110 ประเทศ และมีโรงงานผลิตในต่างประเทศรวม 16 แห่ง รวมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาจำนวน 5 แห่ง

นอกจากนี้ ในการร่วมพัฒนาแบรนด์รถยนต์ที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นนั้น ที่ไทยไม่ใช่ประเทศแรก แต่มีดำเนินการมาก่อนหน้าแล้ว ในบางประเทศในยุโรป คือ สเปน ภายใต้แบรนด์ EBRO (เอ็บโบร) และอิตาลี แบรนด์ DR (ดีอาร์)

ดังนั้น จึงค่อนข้างมั่นใจในความร่วมมือนี้เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยขึ้นมา 

นอกจากนี้ เชอรี ออโตโมบิล ยังประกาศการรุกขยายตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยเมื่อปีที่แล้ว ได้เปิดตัวแบรนด์ โอโมดา และแบรนด์ เจคู ไปแล้ว และภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ จะนำแบรนด์ เชอรี ที่ครั้งหนึ่งเคยเข้ามาทำตลาดในไทย กลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณ พิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ระหว่างแบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู และแบรนด์ เชอรี นั้น จะแตกต่างกันทั้งในรูปลักษณ์ การออกแบบ เครื่องยนต์ ตลอดจนการทำตลาดและการสื่อสาร ก็จะแยกจากกันอย่างชัดเจน

สำหรับแบรนด์ เชอรี ที่จะกลับมาทำตลาดในไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มเครื่องยนต์ประเภท PHEV ในกลุ่มแบรนด์จีน ขณะเดียวกัน ก็ต้องการชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเครื่องยนต์ประเภท HEV ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ญี่ปุ่นครองตลาดนี้ในประเทศไทย

ไฮไลต์ ของแบรนด์ เชอรี ที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในไทยด้วยก็คือ รถ ไอคาร์ วี 23 (iCarV23) ซึ่งจะทำตลาดในไทยในชื่อ CHERY V23 (เชอรี วี 23) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ส่วนรุ่นอื่น ๆ เช่น CHERY Tiggo 8 (เชอรี ทิกโก้ 8) และ Tiggo Cross (ทิกโก้ ครอส) เป็นต้น

ล่าสุด ทางแบรนด์เชอรี ได้มีการแต่งตั้งดีลเลอร์รวม 13 ราย มีโชว์รูมกว่า 20 แห่งในประเทศไทย และก่อนไตรมาส 3 ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตั้งเป้าจะมีโชว์รูมสำหรับแบรนด์ เชอรีมากกว่า 30 แห่ง

ส่วนแบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู ปัจจุบันมีโชว์รูมอยู่แล้วกว่า 40 แห่งในประเทศไทย และไตรมาส 3 ปีนี้ จะเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานจังหวัดระยอง จะประเดิมการผลิตด้วยรุ่น เจคู 6 อีวี (JAECOO 6 EV)

โดย โรงงานดังกล่าวมีเป้าหมายการผลิต 80,000 คันต่อปี ภายในปี 2571 นี้ อีกทั้ง ในอนาคต มีแผนจะลงทุนเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด รุ่นอื่น ๆ ของ เชอรี กรุ๊ป ซึ่งรวมถึงแบรนด์ เชอรี และ ภายในปี 2570 จะมีการจัดตั้งโรงงานพ่นสีในประเทศไทย


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง