กระบะชนประสานงาพ่วง น้องชมพู่ กลับไม่ถึงบ้าน ดับสลดคาที่ ตร.เผยสาเหตุ
กระบะพุ่งชนประสานงาพ่วง เสยเข้าเต็มคาถนนอุดรธานี น้องชมพู่ กลับไม่ถึงบ้าน ดับสลดคาที่ ตร.เผยสาเหตุ คาดหลับใน ญาติรับศพ
เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.อ.นิคม ยะจอม รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับแจ้งมีเหตุรถกระบะชนประสานงารถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.บ้านผือ ถ.บ้านผือ-ท่าบ่อ บ.ดงหวาย ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยคนขับรถกระบะเป็นผู้หญิงเสียชีวิตคารถ หลังจากได้รับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.บ้านผือ กู้ชีพ อบต.หายโศก และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานจุด อ.บ้านผือ
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 ช่องทางจราจรพบรถกระบะโตโยต้า รีโว สีขาว ทะเบียน ผล-4311 ขอนแก่น จอดอยู่บริเวณไหล่ทางด้านขวา สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินไปจนถึงห้องผู้โดยสาร ที่นั่งคนขับพบร่างของผู้เสียชีวิตนั่งอยู่หน้าพวงมาลัยรถคือ น.ส.ระพีภัทร พิลากุล หรือ “น้องชมพู่” อายุ 23 ปี ชาวอ.นายูง จ.อุดรธานี
ห่างไปราว 30 เมตร พบรถบรรทุกหินพ่วง 18 ล้ออีซูซุสีขาว ทะเบียน 82-2115 เลย ทะเบียนตัวพ่วง 82-2116 เลย พลิกตะแคงอยู่ข้างถนน พบนายวโรดม แก้วคม อายุ 25 ปี คนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ด้านหน้ารถบรรทุกพ่วงบริเวณข้างขวา มีร่องรอยการชนลักษณะประสานงากัน จนทำให้รถคู่กรณีมีสภาพพังยับ และคนขับเสียชีวิตคาที่
จากกการสอบสวนนายวโรดมให้การว่า ขณะขับรถบรรทุกพ่วงหินมาเต็มคันจาก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ไปส่งลูกค้าที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. เนื่องจากรถมีน้ำหนักหลายสิบตัน กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถคู่กรณีวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ก่อนรถคันดังกล่าวจะค่อยๆ ข้ามมาทางช่องจราจรของตน
ตอนนั้นพยายามกระพริบไฟเตือน พร้อมกับบีบแตร และพยายามชิดรถเข้าไหล่ทาง แต่รถคู่กรณีก็ไม่ยอมหลบ กลับพุ่งเข้าชนด้านหน้าฝั่งขวารถบรรทุกเข้าอย่างจัง ทำให้รถบรรทุกเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง จนเป็นเหตุทำให้คนขับรถคู่กรณีเสียชีวิตติดอยู่ในรถดังกล่าว
ร.ต.อ.นิคม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบและสอบสวนที่เกิดเหตุในเบื้องต้นสันนิฐานว่า ผู้เสียชีวิตขับรถมาจากพื้นที่อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อกลับบ้านที่อ.นายูง จ.อุดรธานี จากสภาพรถที่พังยับทั้งคัน เชื่อว่าผู้เสียชีวิตขับมาด้วยความเร็วสูง และคาดว่าหลับใน เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ทางตำรวจจะได้ตรวจสอบพยานหลักฐานถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
