วันแรกอภิปรายงบ 3.78 ล้านล้าน นายกฯ ยันขาดดุลกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันแรกอภิปรายงบ 3.78 ล้านล้าน นายกฯ ยันขาดดุลกระตุ้นเศรษฐกิจ ฝ่ายค้านจี้โปร่งใสงบกลาง
การอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม ด้วยบรรยากาศที่เข้มข้นแต่เป็นไปตามกรอบการทำงานของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พร้อมคณะรัฐมนตรีเข้าชี้แจงหลักการจัดทำงบประมาณต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยเน้นย้ำเป้าหมายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
การชี้แจงหลักการจากฝ่ายรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้นำเสนอหลักการจัดทำงบประมาณปี 2569 โดยเน้นการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจแม้ต้องตั้งงบขาดดุล พร้อมจัดสรรงบตามยุทธศาสตร์ชาติครบทุกด้าน ตั้งแต่การสร้างความสามารถในการแข่งขัน การลดความเหลื่อมล้ำ การดูแลสิ่งแวดล้อม จนถึงการปรับปรุงระบบราชการ
รองนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ได้แสดงความพร้อมของรัฐบาลในการผลักดันร่างงบประมาณปี 2569 โดยระบุว่าไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่รัฐมนตรีการพัฒนาสังคมฯ วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ชี้แจงความพร้อมของกระทรวงและพรรคในการสนับสนุนโครงการสำคัญ
งบประมาณที่เพิ่มขึ้นและการจัดสรรตามยุทธศาสตร์
รัฐบาลได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณที่เพิ่มขึ้น 27,900 ล้านบาท หรือ 0.7% จากปีก่อน โดยมีเป้าหมายสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วง 2.3-3.3% ตามการคาดการณ์ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าภายใต้สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน รัฐบาลมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยกำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 860,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้สาธารณะคงค้าง ณ เดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 64.4% ของ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด
งบประมาณปี 2569 ถูกจัดสรรตาม 6 ยุทธศาสตร์หลัก โดยยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมได้รับการจัดสรรสูงสุด 942,709 ล้านบาท หรือ 24.9% ของงบประมาณทั้งหมด ตามด้วยยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และด้านการปรับสมดุลระบบราชการ แต่ละด้านได้รับงบประมาณ 605,927 ล้านบาท และ 605,441 ล้านบาท ตามลำดับ
ข้อสังเกตและคำถามจากฝ่ายค้าน
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้าน ได้วิจารณ์การจัดทำงบประมาณปี 2569 ว่า "ไร้ทิศ-ไร้ทาง-ไร้ภาพ" โดยเฉพาะงบ 1.57 แสนล้านบาท ที่โยกไปดิจิทัลวอลเล็ตและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีความเห็นว่าการจัดงบยังใช้สูตรเดิม และเสนอให้ปฏิรูประบบงบประมาณเพื่อเน้นลงทุนเศรษฐกิจใหม่ เช่น อุตสาหกรรมไฮเทค ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้อภิปรายในหัวข้อ "ช่วยรัฐบาลหางบประมาณ" โดยเสนอให้ปรับ ลด เลื่อน หรือตัดงบที่ไม่จำเป็นหรือสุ่มเสี่ยงต่อการคอร์รัปชัน พร้อมชี้ให้เห็นการใช้งบที่อาจไม่เหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบัน
ฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกตโดยเฉพาะเกี่ยวกับงบกลางที่ได้รับการจัดสรรสูงสุด 632,968 ล้านบาท โดยต้องการความชัดเจนในการใช้จ่าย รวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ที่ฝ่ายค้านเห็นว่าอาจยังขาดแผนแม่บทที่ชัดเจน
แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจและความท้าทาย
รัฐบาลได้วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก การพัฒนาภาคการท่องเที่ยว และการยกระดับภาคเกษตร โดยการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ได้รับการจัดสรร 211,963 ล้านบาท ขณะที่การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำได้รับ 107,485 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านน้ำของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยท้าทายหลายประการที่ต้องพิจารณา ได้แก่ ภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
บรรยากาศการอภิปราย ณ เวลา 21.30 น.
ณ เวลา 21.30 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม การอภิปรายวันแรกที่ดำเนินไปตั้งแต่เวลา 16.00 น. ยังคงมีบรรยากาศที่เข้มข้นและต่อเนื่อง ฝ่ายรัฐบาลได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชี้แจงหลักการและเป้าหมายของการใช้งบประมาณอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำความจำเป็นของการตั้งงบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ฝ่ายค้านได้ใช้โอกาสในการตั้งคำถามและข้อสังเกตเกี่ยวกับความโปร่งใสในการจัดสรรงบประมาณ การกระจุกตัวของงบในบางหน่วยงาน และประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตย
การอภิปรายจะดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 29-31 พฤษภาคม ตามกรอบเวลาที่วิปสามฝ่ายได้ตกลงกันไว้ โดยมีการแบ่งเวลาอภิปรายอย่างเท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ก่อนที่จะมีการลงมติในวาระแรกในช่วงเย็นของวันสุดท้าย
ภาพรวมการอภิปรายวันแรก
การอภิปรายงบประมาณปี 2569 วันแรกแสดงให้เห็นกระบวนการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยฝ่ายรัฐบาลได้ใช้โอกาสในการชี้แจงนโยบายและเป้าหมายการใช้งบประมาณอย่างละเอียด ขณะที่ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ตรวจสอบและตั้งคำถามเพื่อความโปร่งใสและประสิทธิภาพ
ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในวันแรก ได้แก่ ความจำเป็นของการตั้งงบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การจัดสรรงบตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ความโปร่งใสของงบกลาง และประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามในการอภิปรายวันต่อไป
การลงมติในวาระแรกจะเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่างบประมาณที่รัฐบาลเสนอจะได้รับการสนับสนุนจากสภาหรือไม่ และจะต้องมีการปรับแก้ในส่วนใดบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ