รัฐบาลแจก 2,000 บาท ร้านค้าร่วม”คนละครึ่งพลัส” พัฒนาทักษะค้าขาย

#ทันหุ้น รัฐบาลแจก 2,000 บาท ร้านค้าร่วม”คนละครึ่งพลัส” พัฒนาทักษะค้าขาย ให้สิทธิ์ไม่เกิน 4 แสนราย ลงทะเบียนเข้าร่วม 19 พ.ย.ถึง 19 ธ.ค.นี้ คาดใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2568 ได้เห็นชอบโครงการพัฒนาความรู้ทักษะหรือเรียนรู้ทักษะใหม่ สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อยกระดับศักยภาพร้านค้ารายย่อยให้สามารถปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

เขากล่าวว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะตามเงื่อนไข จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 20% ของยอดขายที่เกิดขึ้นจริงจากโครงการคนละครึ่ง พลัส แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะต้องเข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นตามที่กำหน มีระยะเวลาการอบรมระหว่างวันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลจะใช้งบประมาณที่เหลือจากโครงการคนละครึ่งพลัสจำนวนประมาณ 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ ร้านค้าสามารถเข้าฝึกอบรมการพัฒนาทักษะใน 3 ช่องทาง ซึ่งให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่  1.การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางการเงินด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล 2.ร่วมการอบรมออนไลน์และ AI ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้นำความรู้ไปต่อยอดในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และเพิ่มทักษะเทคโนโลยี โดยเรียนผ่านระบบอบรมออนไลน์ DBD Academy (e-Learning)  

3.เข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform ซึ่งต้องผ่านการเข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส รายใดรายหนึ่ง ได้แก่ แกร็บ ไลน์แมน โรบินฮู้ด และช็อปปี้ฟู้ด

สำหรับผู้ที่เข้าร่วมการอบรมผ่าน Food Delivery Platform มีเงื่อนไขว่า ต้องมีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส อย่างน้อย 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธ.ค. 68 จึงจะถือว่า ได้ดำเนินการสำเร็จ  และต้องไม่เป็นร้านที่อยู่ในแพลตฟอร์มเหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบ

ทั้งนี้ รัฐบาลจะประกาศผลร้านค้าที่ได้รับสิทธิ์ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ บนแอปฯถุงเงินและเริ่มโอนเงินให้วันที่ 25 ธ.ค.68

เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำหนดให้สิทธิ์ร้านค้าเข้าร่วมเพียง 4 แสนราย จากปัจจุบันที่มีร้านค้าลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่ง พลัสประมาณ 8.58 แสนราย ซึ่งจำนวน 4 แสนรายดังกล่าว เป็นร้านค้าที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกับ Food Delivery Platform