SPA สาขาใหม่ดันรายได้ ชูไฮซีซัน-เวลธ์เนสหนุน

#SPA #ทันหุ้น – SPA แย้มไตรมาส 4/2568 เติบโตดีจากวันหยุดของจีนและไทยในเดือนตุลาคม 2568 หนุนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยอมรับ SSSG อาจยังลดลง แต่ยังคงมีแรงหนุนจากจำนวนสาขาใหม่ที่ทยอยเปิด รวมถึงแรงกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ ขณะที่กลยุทธ์การเติบโตในปีหน้าจะเน้นไปที่โครงการ Wellness Destination เป็นหลัก ด้านโบรกยังมองบวกต่อธุรกิจ แนะนำ “ซื้อ” ชูเป้าหมาย 3.80 บาท
นายณรัล วิวรรธนไกร กรรมการบริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ดำเนินธุรกิจด้านสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 หลังจากผ่านมา 1 เดือน ยังเติบโตค่อนข้างดี เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันชาติจีน (Golden Week) เพราะเป็นวันหยุดยาว ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งมีความกังวลประเด็นเรื่องความปลอดภัยน้อยกว่ากลุ่มทัวร์ หรือลูกค้าที่มาจากเมืองรองจากจีนที่เพิ่งเคยมาไทยครั้งแรก
ประกอบกับยังมีวันหยุดยาวของคนไทยในวันที่ 13 และ 23 ตุลาคม 2568 ซึ่งทำให้อัตราการใช้บริการสูงขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวต่างจังหวัด เช่น หัวหิน, พัทยา ขณะที่เดือนพฤศจิกายนทิศทางยังคงดีต่อเนื่องเพราะเข้าสู่ช่วง High Season แล้ว เริ่มเห็นลูกค้ากลุ่มยุโรปและเอเชียทยอยเดินทางเข้ามาแต่ยังไม่มากเท่าเดือนตุลาคม
*สาขาใหม่หนุนรายได้โต
ทั้งนี้แม้ว่ายอดการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) อาจยังลดลง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงประมาณ 20% จากเดือนตุลาคม แต่บริษัทยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ที่เปิดไปค่อนข้างมากในช่วงต้นไตรมาส 4/2568 ซึ่งเปิดไปประมาณ 4 สาขา เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จะขยาย 10 สาขา ในปีนี้
และเหลือที่จะเปิดใหม่อีก 1 สาขา คือ ออนเซ็น ราชดำริ คาดจะเปิดในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ส่งผลให้บริษัทจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 89 สาขา โดยสาขาใหม่เหล่านี้ช่วยผลักดันยอดขายรวม ขณะที่ทางภาครัฐมีนโยบายใหม่ที่ค่อนข้างเป็นผลดีต่อตลาดจีน ซึ่งคาดว่าจะมีผลบวกต่อธุรกิจสปา รวมถึงกระทรวงท่องเที่ยวพยายามเร่งผลักดันเป้านักท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี
ถึงแม้ว่าบริจะไม่ได้รับอานิสงส์จากโครงการรัฐ “เที่ยวดีมีคืน” เนื่องจากมาตรการดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งธุรกิจหลักของบริษัท คือ สปากับ Wellness แต่สาขาที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นโรงแรมและร้านอาหาร อาจได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าวบ้าง
*เน้นลงทุนศูนย์สุขภาพ
อย่างไรก็ดีกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทในปี 2569 ส่วนจะมาจากการเติบโตของสาขาใหม่ที่ทยอยเปิดในปีนี้ และการขยายสาขาในปีหน้าจะขอพิจารณาสถานการณ์โดยรวมอีกทีก่อน ซึ่งยังคงไม่ปิดโอกาสถ้าหากมีโอกาสทางธุรกิจเข้ามามาก ทั้งการเปิดในห้างหรือสาขาที่รับบริหาร เพราะมองว่ากำลังซื้อและความต้องการในธุรกิจ Wellness และสปายังคงมีอยู่
แต่งบลงทุนหลักของบริษัทในปีหน้าจะถูกใช้ไปกับโครงการศูนย์สุขภาพ Wellness Destination ที่หาดนาจอมเทียน พัทยา ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบและเริ่มรับรู้รายได้ประมาณไตรมาส 1/2570
*โบรกให้ราคา 3.80 บ.
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาดกำไรปกติไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% QoQ หนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน สะท้อนการผ่านจุดต่ำสุดของความไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยและเหตุการณ์แผ่นดินไหวไปแล้ว ทำให้คาดรายได้หลักจากบริการสปาและขายผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 404 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีมุมมองบวกต่อไตรมาส 4/2568 จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 25569 ที่ 3.80 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER26 ที่ 16x ต่ำกว่าคาดการณ์การเติบโตของกำไรที่ระดับ 18% YoY อีกทั้งภาคท่องเที่ยวไทยที่มีทิศทางเชิงบวกอย่างต่อเนื่องมีโอกาสหนุนให้ราคาหุ้นฟื้นตัวเราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
