รีเซต

LH 'หยวนต้า' คาด Q3/67 อยู่ระดับต่ำ หั่นกำไรปี 67-68 ลดราคาเมาะสมเป็น 6.60 บ.

LH 'หยวนต้า' คาด Q3/67 อยู่ระดับต่ำ  หั่นกำไรปี 67-68 ลดราคาเมาะสมเป็น 6.60 บ.
ทันหุ้น
7 พฤศจิกายน 2567 ( 11:04 )
2

#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ประเมินกำไรปกติ Q3/67 ที่ 824 ลบ. (-19% QoQ, -33% YoY) ลดลง QoQ และ YoY จาก 1) รายได้การโอนคาดที่ 4.1 พันลบ. (-5% QoQ, -7% YoY) ลดลงตามสภาวะตลาดอสังหาที่อ่อนแอ ยอดขายแนวราบชะลอตัวคาดที่ราว 3.1 พันลบ. (-19% QoQ, -42% YoY) และไม่มีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่เริ่มโอน 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงจากต้นทุนโครงการและการแข่งขันทางด้านราคาเพิ่มขึ้น และ 3) SG&A/Sale คาดเพิ่มขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดลดลง นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมลดลงอยู่ที่ 786 ลบ. (-7% QoQ, -2% YoY) สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ Q3/67 ของบริษัทที่เข้าไปลงทุนชะลอตัวลง ได้แก่ HMPRO รายงานกำไร 1.4 พันลบ. (-11% QoQ, -6% YoY), QH รายงานกำไร 573 ลบ. (-8% QoQ, -10% YoY) และ ฯลฯ

 

ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567-68 ลง 29% และ 8% หาก Q3/67 ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาด กำไรปกติช่วง 9M67 คิดเป็นเพียง 53% ของประมาณการเดิมของฝ่ายวิจัย แนวโน้มการฟื้นตัวต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดเดิม และมองตลาดอสังหาฯ จะยังโดนกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ และความสามารถของบริษัทฯ ในการรักษาส่วนแบ่งในตลาดลดลง จึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-68 ลง 29% และ 8% เป็น 4.2 พันลบ. (-27% YoY)และ 6.1 พันลบ. (+47% YoY) ตามลำดับ

 

Q4/67 คาด Presales และยอดโอนฟื้นตัว QoQ จากฐานต่ำลดลง YoY โดยประเมินยอด Presales และการโอน Q4/67 ลดลง YoY ตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังโดนกดดันจากปัจจัยมหภาค การแข่งขันสูงขึ้นระหว่างผู้ประกอบการขณะที่คาดฟื้นตัว QoQ จากฐานต่ำ และแผนเปิดโครงการใหม่ที่เร่งตัวขึ้น จำานวน 6 แห่ง โดยเป็นแนวราบทั้งหมด มูลค่ารวมกว่า 1.4 หมื่นลบ. (45% ของแผนเปิดโครงการใหม่ปี 2567) นอกจากนี้ Q4/67 บริษัทฯ จะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายห้างสรรพสินค้า Terminal 21 พัทยาเข้ากอง LHSC ที่ฝ่ายวิจัยคาดอยู่ที่ราว 1.0-1.2 พันลบ. เข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการและการจ่ายปันผลของปี 2567 

 

สำหรับถือเพื่อรับปันผล... ลดราคาเหมาะสมลงเป็น 6.60 บาท ฝ่ายวิจัย Rollover ไปใช้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2568 ที่6.60 บาท/หุ้น มี Upside gain 19% และคาดเงินปันผล 1H67 ที่ 0.13 บาท/หุ้น (เลื่อนประกาศจากเดือนส.ค. เป็น พ.ย.) คิดเป็น Dividend Yield 2.4% ทางพื้นฐาน ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ถือเพื่อรับเงินปันผลเท่านั้น เพราะระยะสั้นผลประกอบการยังอ่อนแอ ทำให้การฟื้นตัวของราคาหุ้นค่อนข้างจำกัด

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง