DELTAหนุนไทยฮับดาต้า รักษาฐานผลิตพร้อมโต

#DELTA #ทันหุ้น – ซีอีโอ DELTA ชี้อัตราภาษี Reciprocal Tariff 19% ของไทยยังอยู่ในระดับแข่งขันได้ เร่งปรับกลยุทธ์–ขยายลงทุนในสหรัฐ รองรับกระแส Made in America พร้อมรักษาฐานผลิตไทยและต่อยอดโซลูชัน ดันไทยสู่ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ภูมิภาค สร้างการเติบโตมั่นคง หนุนนักลงทุนเชื่อมั่นระยะยาว
นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า กรณีที่ไทยได้รับอัตราภาษี Reciprocal Tariff ที่ 19% ว่า เป็นอัตราที่ยอมรับได้ เนื่องจากไม่แตกต่างจากอัตราภาษีที่ใกล้เคียงกันทั้งภูมิภาค ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับกลยุทธ์ให้สอดรับ รวมถึงหาโอกาสเติบโตบนปริบทใหม่ และโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบัน บริษัทได้เพิ่มการลงทุนเข้าไปในองค์กร ในประเทศสหรัฐอเมริกาให้สอดคล้องกับกระแส “Made in America”
“มุมมองระดับภูมิภาค ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้และไม่เป็นปัญหามากนัก โดยเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น เวียดนามที่มีอัตรา 20% และประเทศไทยที่ 19% ซึ่งอยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ตราบใดที่อัตรานี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง หรือประเทศไทยถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคมากนัก ก็ยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ทรงตัวและไม่น่ากังวล ขณะเดียวกันกลุ่มเดลต้ามีการศึกษาเรื่องการลงทุนเพิ่มเติมในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถช่วงชิงกระแสหรือศักยภาพในการผลิตในสหรัฐ ด้วย”
*รักษาฐานผลิตในไทย
ในขณะเดียวกัน บริษัทเร่งปรับโครงสร้างฐานธุรกิจในประเทศไทย ยังคงมีการแข่งขันสูงและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาดจากลูกค้าการกระจายการลงทุน ทั้งการขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานอยู่ ควบคู่กับการเดลต้ายังได้ พัฒนาโมเดลธุรกิจโดยการขยายสิ่งที่เรียกว่า Solution ให้กับหลากหลายประเทศในภูมิภาค
โดยโซลูชันเหล่านี้ครอบคลุมหลายภาคส่วน เช่น การผลิตอัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติเพื่ออุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบพลังงาน ซึ่งรวมถึงระบบกักเก็บพลังงาน และระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับ กลุ่มสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อค้นหาแนวคิดทางธุรกิจละโอกาสในการเติบโตในอนาคต
*ชูไทยฮับดาต้าเซ็นเตอร์
นายแจ็คกี้ กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมที่จะเป็นฮับดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชีย ปัจจัยพื้นฐานที่เพียงพอ เช่น ที่ดิน น้ำ และกระแสไฟฟ้า พร้อมกันนี้ทุกรัฐบาลควรมีนโยบาย รวมถึงกกฎหมายต่างๆ ที่จะผลักดันให้ไทยเป็นฮับ ดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต
ส่วนกรณีที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น DELTA ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ อย่างมีนัยสำคัญ นายแจ็คกี้ กล่าวว่าบริษัทมุ่งทำผลการดำเนินงานให้ดีที่สุด เมื่อผลการดำเนินงานดีมีการเติบโตอย่างมั่นคง นักลงทุนก็จะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
