“สุพัฒนพงษ์” แจงภาษีที่ดิน ”หอการค้า” ตื๊อลด90% อีก 2 ปี ชี้ธุรกิจยังไม่พร้อมจ่าย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% ในปี 2565ว่า ต้องปรับอัตราภาษีที่ดินให้ทันสมัย เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นรายได้ภาษีของไทยยังน้อย และไม่ใช่สิ่งที่เราคิดหรืออยากจะขึ้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้นำของประเทศอื่นมาพิจารณาด้วย ทั้งรูปแบบและอัตราจัดเก็บ ซึ่งบางคนอาจจะตกใจว่าอัตราสูงมาก จึงนำที่ดินเปล่าไปปลูกกล้วย จริงๆแล้วอัตราที่เรียกเก็บระบุไว้อยู่แล้วในพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562
“เข้าใจว่าเป็นความตระหนก แต่ว่าอัตราเสียภาษีที่ดินไทยไม่ได้สูง เป็นการค่อยๆส่งสัญญาณให้เราปรับตัว สังคมสูงอายุของเรารายได้หลักคือการจับจ่าย ใช้สอยภาษีการลงทุน ซึ่งการลงทุนต้องดูว่าจะมีใครมาทำ มีใครเข้ามา เราต้องเปิดกว้าง เปิดประเทศ เอาคนมีศักยภาพ มีความสามารถให้เข้ามาในประเทศ มาจับจ่ายใช้สอย เสียภาษีในบ้านเรา”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
เปิดทางให้ยื่นเป็นรายธุรกิจ
นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า หากบางธุรกิจคิดว่ามีความเดือดร้อน สามารถยื่นเสนอต่อคณะอนุกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. มีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เป็นประธาน ให้พิจารณาเป็นรายกรณีได้ เพราะทุกอย่างถูกออกแบบไว้ให้มีช่องทางของการแก้ปัญหาเพียงแต่อาจจะไม่ได้หารือร่วมกัน
“ผมทำงานร่วมกับคณะกรรมการชุดนี้ด้วย อย่างที่บอกไม่ได้เป็นอะไรที่พูดคุยกันไม่ได้ ทุกคนต้องมาดู ไม่ใช่เอาแต่ของตัวเองและล้มทั้งหมดเพื่อเหตุผลอันนี้ อาจจะเป็นเหตุผลเฉพาะกลุ่ม ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็คงรับฟัง ขณะเดียวกันต้องดูหน้าที่ตัวเองด้วยได้ทำและช่วยเหลือตัวเองอย่างไรบ้าง ภาษีที่ดินมีเรื่องใหม่ที่กระทบต่อผู้เปราะบางอยู่ ก็ลองรวบรวมเหตุผลมาหารือถึงผลกระทบว่ารุนแรงแค่ไหนละจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างไร”นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
หอการค้ายื่นคลังขอลด90% อีก 2 ปี
นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นครั้งที่3 ให้พิจารณาขยายเวลาลดอัตราภาษีที่ดิน 90% อีก 2 ปี(2565-2566) เพราะผู้ประกอบการทุกธุรกิจ ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลต่อรายได้ลดลง ขณะที่บางรายหยุดดำเนินการ แต่ทรัพย์สินยังอยู่ จะไม่พร้อมจ่ายภาษี100% เพราะภาษีที่ดินประเมินจากมูลค่าทรัพย์สิน ทำให้มีภาระเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจโรงแรมกว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ช่วงโควิด 2 ปี แทบไม่มีรายได้ หรือสถานประกอบการร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจ SMEs ก็ยังได้รับความเดือดร้อน
“ทุกธุรกิจเดือดร้อนหมด จากการสอบถามข้อมูลผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสมาชิกเทั่วประเทศ พูดเป็นเสียงเดียวกัน ไม่พร้อมจ่ายภาษี100% ขอให้รัฐพิจาณาลดอัตราให้เหมือน 2 ปีที่แล้ว รอให้สถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน หรือถ้าเป็นไปได้ขอเก็บแบบขั้นบันได ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ธุรกิจปรับตัว ตอนนี้รอคำตอบจากคลังจะพิจารณาข้อเสนอหรือไม่ สถานการณ์แบบนี้หากรัฐจะเก็บ100% สุดท้ายท้องถิ่นรวมถึงกรุงเทพมหานครและพัทยา คงเก็บรายได้ก็ไม่เข้าเป้า เพราะคนไม่มีจ่าย และจะส่งผลกระทบต่อฐานภาษีอื่นด้วย เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น “ นายอธิปกล่าว