หอการค้าภาคใต้ชี้ท่องเที่ยวฟื้น หนุนรัฐเร่งรัฐเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐาน

ในงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 43 Unlocking New Growth ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา นายสลิล โตทับเที่ยง รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ประธานหอการค้าภาคใต้ เปิดเผยว่า สำหรับเศรษฐกิจภาคใต้ปีนี้ยังเติบโตได้ราวร้อยละ 2–3 ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงส่งสำคัญจากภาคท่องเที่ยว ซึ่งฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวหลักยังเป็นชาวมาเลเซียและยุโรป ขณะที่กลุ่มตะวันออกกลางและอินเดียเริ่มเพิ่มจำนวน ส่วนตลาดจีนมีแนวโน้มกลับมาช่วงปลายปีถึงไตรมาสแรกปีหน้า หลังการเยือนจีนของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้ช่วยกระตุ้นให้การท่องเที่ยวปีหน้าขยายตัวได้ดีขึ้นอีก

ด้านภาคเกษตรภาพรวมยังทรงตัว แม้พืชผลบางชนิดจะลดลง เช่น ยางพาราที่ได้รับผลกระทบจากฝนมากทำให้ผลผลิตลด แต่ราคาขยับดีขึ้น ขณะที่ปาล์มน้ำมันได้อานิสงส์จากสภาพอากาศเหมาะสม ส่วนทุเรียน แม้ผลผลิตดีแต่ราคาอ่อนกว่าปีก่อน รวมถึงการค้าชายแดนไทย–มาเลเซียและการผลักดันตลาดใหม่ เช่น บังกลาเทศและอินโดนีเซีย เริ่มขยายตัวดีขึ้น

นอกจากนี้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภาคใต้ที่ผ่านขั้นตอนศึกษาแล้ว เช่น อุโมงค์ภูเก็ต ถนน 4 เลน จากกระบี่–สตูล และสายเอเชียชุมพร–หาดใหญ่ รวมถึงรถไฟทางคู่ เพื่อให้ศักยภาพเศรษฐกิจภาคใต้ขยายตัวได้เต็มที่ 

นอกจากนี้ประธานหอการค้าภาคใต้ ยังให้ความเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ร้านค้าก็เริ่มเข้าร่วมมากขึ้นหลังเห็นผลที่เป็นรายได้จริง จึงเสนอว่าหากรัฐบาลต้องการเร่งเศรษฐกิจ ควรเพิ่มวงเงินและขยายโครงการต่อ 

ส่วนประเด็นที่รัฐบาลมีแผนการปรับขึ้นภาษี VAT จากปัจจุบันร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 8.5 และร้อยละ 10 อีก 3 ปีนั้น เชื่อว่าหากนายกฯ คนปัจจุบันยังอยู่ก็น่าจะยังไม่ขึ้นภาษี และรัฐบาลควรหารายได้จากทางอื่นมากกว่าการขึ้น VAT

จากกระแสข่าวการยุบสภาเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด อยากให้รัฐบาลสามารถเร่งออกมาตรการเศรษฐกิจที่จับต้องได้ก่อนยุบสภาก็จะช่วยคลายความกังวล ซึ่งภาคเอกชนอยากได้รัฐบาลที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจเศรษฐกิจและปัญหาภาคเอกชน พร้อมทำงานบนพื้นฐานกฎหมายและสนับสนุนให้เอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เต็มศักยภาพ