รีเซต

ปิดฉากสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ เปิดข้อเสนอ “สมุดปกขาว" ต่อรัฐบาล

ปิดฉากสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ  เปิดข้อเสนอ “สมุดปกขาว"  ต่อรัฐบาล
TNN ช่อง16
24 พฤศจิกายน 2568 ( 16:51 )
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำ “สมุดปกขาว หอการค้าไทย ปี 2568” ซึ่งเป็นข้อสรุปจากการระดมความคิดเห็นระหว่างการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 43 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา ภายใต้แนวคิด “Unlocking New Growth: ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” เสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้ประกอบการพิจารณากำหนดทิศทางเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศ  ดร.พจน์ กล่าวว่า แม้งานสัมมนาครั้งนี้จะต้องยกเลิกลงหลังจากเริ่มประชุมไปได้ 1 วัน เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย รวมถึงผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้มากกว่า 1,500 คน ทางหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดสงขลา ที่เป็นเจ้าภาพการจัดสัมมนาต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทุกพื้นที่ที่รวมรวมความช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะนี้ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ก็ได้กลับเข้าภูมิลำเนาแล้ว ขณะเดียวกัน ตอนนี้ มูลนิธิพาณิชย์สงเคราะห์ โดยหอการค้าไทย ก็ได้มีการเปิดระดมรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพิ่มเติม เพราะทราบมาว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดยังไม่คลี่คลาย 

สำหรับ “สมุดปกขาว หอการค้าไทย ปี 2568”  หอการค้าฯ ได้รวบรวมข้อเสนอแนะและเสียงสะท้อนจากเครือข่ายหอการค้าทั่วประเทศ มาก่อนหน้าการสัมมนาแล้ว ซึ่งได้จัดทำเป็นเอกสารส่งมอบให้ท่านนายกรัฐมนตรี ช่วงที่มีการ ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้ เพื่อให้รัฐบาลสามารถนำประเด็นที่ได้รับไปพิจารณาดำเนินการได้ สำหรับประเด็นและข้อเสนอแนะที่หอการค้าฯ บรรจุไว้ในสมุดปกขาวปีนี้ มุ่งเน้นการปลดล็อกการเติบโตใหม่ของประเทศทั้งในระดับโครงสร้างและระดับภูมิภาค ครอบคลุม 5 มิติหลัก ได้แก่ 

1. ด้านการค้าและการลงทุน (Trade & Investment) มุ่งยกระดับศักยภาพการค้าการลงทุนของประเทศผ่านการเร่งให้สัตยาบัน FTA (ไทย–ศรีลังกา, ไทย–EFTA) และการสมัครเข้าร่วม OECD พร้อมปรับโครงสร้างกฎหมาย เปิดเสรีโลจิสติกส์ ทบทวน พ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว และจัดตั้งหน่วย Fast Track Reform (Guillotine Unit) เพื่อรื้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ขณะเดียวกันสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ชีวภาพ (Bioplastics) และพลังงานสะอาด ด้านแรงงาน เสนอระบบค่าจ้างตามทักษะ (Pay-by-Skills) ร่วมกับการยกระดับทักษะ แรงงาน (Up/Reskill) จัดตั้งศูนย์บริการแรงงานเบ็ดเสร็จ และคณะกรรมการร่วมรัฐ–เอกชนด้านแรงงาน (กรอ.แรงงาน) ส่วนด้านค้าปลีก เสนอขยายโครงการ “Easy e-Receipt เฟส 2 จัดตั้งเขตปลอดภาษีในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก คืน VAT ทันทีแก่นักท่องเที่ยว และ
ตั้งศูนย์

2. ด้านเกษตรและอาหาร (Agriculture & Food) เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร (Value-Based Agriculture) ผ่านการผลักดัน Product Champions ในสินค้าหลัก เช่น ข้าว ยาง ปาล์ม ไก่ หมู กุ้ง และพืชสมุนไพร พร้อมสนับสนุนการแปรรูป การพัฒนาพันธุ์ด้วยเทคโนโลยี Gene Editing และส่งเสริมสินค้า GI–Future Food แผนยุทธศาสตร์มหานครผลไม้เมืองร้อนของประเทศไทย ขับเคลื่อนสู่ศูนย์กลางการค้าและความรู้ผลไม้เมืองร้อนโลก รวมถึงพัฒนาโครงสร้างฐานราก เช่น ระบบน้ำ ที่ดิน ฐานข้อมูลเกษตรกร และศูนย์ประสานงานสินค้าเกษตรและอาหาร (AFC) ให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลตลาด นอกจากนี้ยังยกระดับอุตสาหกรรมประมง ด้วยการลดภาษีวัตถุดิบ การพัฒนาแรงงานตามมาตรฐานสากล (GLP) และเร่งปลดล็อกข้อจำกัดการส่งออก One Stop Service อำนวยความสะดวกผู้ค้าปลีก

3. ด้านการท่องเที่ยวและบริการ (Tourism & Services) เสนอเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและสุขภาพระดับโลก (Global Wellness & Tourism Hub) โดยผลักดันการใช้แนวคิด “Happy Model” เป็นกรอบพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูงมุ่งยกระดับความปลอดภัยและความเชื่อมั่นผ่านโครงการ Trusted Thailand ใช้มาตรการภาษีและการเงินกระตุ้นการท่องเที่ยวหักลดหย่อนภาษีสูงสุด 15,000 บาท และหักภาษี 3 เท่าสำหรับการจัดอบรมต่างจังหวัด) พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์ม TAGTHAi ให้เป็น National Digital Tourism Utility เชื่อมโยงข้อมูลเมืองหลักและเมืองรอง เสริมเส้นทาง ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและทางทะเล (Wellness & Cruise Tourism) รวมถึงจัดสรร Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำสำหรับ SME และ Startup ด้านท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

4. ด้านดิจิทัล เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Digital & AI with Innovation) ผลักดันเศรษฐกิจ Digital–Green Economy ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP จาก 23.9% เป็น 35% ภายในปี 2579 และสร้างงานคุณภาพกว่า 2 ล้านตำแหน่ง เสนอจัดตั้งศูนย์บัญชาการเศรษฐกิจดิจิทัล (DECC) พร้อมกองทุน Digital–Green Infrastructure เพื่อสนับสนุนการลงทุนใน AI, Cloud, Data Center และพลังงานสะอาด พัฒนาโครงการ Thailand AI Ready ยกระดับทักษะประชาชนกว่า 5 ล้านคน และ ออกมาตรการ Digital Visa ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ เสริมด้วย Digital Voucher สำหรับ SME และกรอบกฎหมายใหม่ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล–กรีน พร้อมมาตรฐาน AI Ethics และ Data Governance การส่งเสริมโครงการพลิกโฉมธุรกิจ สู่ Smart Business ด้วย Automation and Robotics

5. ด้านความยั่งยืน (Sustainability) เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ลดการเผาในภาคเกษตรด้วยระบบ Traceability ส่งเสริมมาตรฐานการออกแบบบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล การใช้วัสดุหมุนเวียน และแรงจูงใจทางภาษีสำหรับ Green Innovation พร้อมผลักดันตลาดไฟฟ้าเสรี (Open Electricity Market) และขยายความรับผิดชอบผู้ผลิต (EPR) ไปยังอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง และการสนับสนุนโครงการ Platform ซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Neutrality 4 ALL) 

นอกจากนั้น หอการค้าไทย ยังได้ร่วมกับ กกร. จัดตั้ง คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้เศรษฐกิจไทย ซึ่งภาคเอกชนลุกขึ้นร่วมกันสร้างระบบที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และเป็นธรรมมากขึ้นถือเป็นการวางรากฐานสำคัญให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตอย่างมีคุณภาพ การลดคอร์รัปชันจะช่วยลดต้นทุนแฝง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ เปิดโอกาสให้ SMEs แข่งขันได้จริง และทำให้ผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าระบบเศรษฐกิจไทยพร้อมรองรับการลงทุนระยะยาว ดังนั้น Zero Corruption จึงไม่ใช่เพียงโครงการต่อต้านทุจริต แต่คือ “แรงส่งใหม่ของเศรษฐกิจไทย” ที่จะช่วยให้ประเทศก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมและเดินหน้าในทศวรรษต่อไปด้วยความมั่นคง โปร่งใส และพร้อมแข่งขันในระดับโลก


    “ข้อเสนอทั้งหมดเป็นประเด็นที่สามารถดำเนินการได้จริงและมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจไทยในทุกภูมิภาค พร้อมทั้งขอขอบคุณหอการค้าจังหวัดสงขลา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ที่ร่วมกันอำนวยความสะดวกจนผู้ที่เดินทางเข้าร่วมงานสามารถกลับสู่ภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย ทางเราหวังว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายได้ในเร็ววัน และเศรษฐกิจของเมืองหาดใหญ่และจังหวัดสงขลาจะกลับมาฟื้นตัว” ดร.พจน์ กล่าวทิ้งท้าย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง