MAJOR โบรกฯ คาดปี 65 กลับมาฟื้น แต่จับตาสถานการณ์โอมิครอน
ข่าววันนี้ ทันหุ้น-บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ได้ปรับคำแนะนำเพิ่มเป็นซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่ 22.80 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าผลประกอบการในปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัวแรง โดยมีกำไรที่ 1,019 ล้านบาท จากภาพยนตร์ที่เข้าฉายมากขึ้น และการกลับมาดำเนินงานธุรกิจได้เป็นปกติมากขึ้น รวมถึงยังมีการขยายธุรกิจบางอย่างออกจากโรงภาพยนตร์อย่าง ป๊อปคอร์น ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ที่รายได้เพิ่มขึ้น และอีกทั้งการขายหุ้น SF ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้นมาก และสามารถรองรับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปีนี้ มีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเข้าฉายมากขึ้น โดยมีเรื่องเด่น ๆ ค่อนข้างมากอย่าง Jurassic World: Dominion, Transformers: Rise of the Beasts, Doctor Strange in the Multiverse of Madness, The Batman, Morbius, Top Gun 2: Maverick, John Wick: Chapter 4, Avatar 2, Mission: Impossible 7, Black Panther: Wakanda Forever, Thor: Love and Thunder, Aquaman and the Lost Kingdom, Black Adam, The Flash: Flashpoint เป็นต้น รวมถึงมีภาพยนตร์ไทยเข้าฉายราว 35-45 เรื่อง ขณะที่ MAJOR มีแผนเปิดโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 17 โรง จากปี 2564 ที่เปิดเพิ่ม 23 โรง ที่จะมีโรง 833 โรง การกลับมาเปิดโรงภาพยนตร์ได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อื่นๆ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม โฆษณา โบว์ลิ่ง/คาราโอเกะ ไอซ์ สเก็ต และค่าเช่าให้ฟื้นตัวตาม
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโอมิครอน หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น อาจมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นจากภาครัฐ จะกระทบต่อการประกอบธุรกิจได้เหมือนกรณีจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีการระบาดและผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิดโรงภาพยนตร์ ขณะนี้ยังประเมินถึงผลกระทบได้ยาก ขึ้นอยู่กับมาตรการของหน่วยงานและ
รัฐบาลจะเข้มงวดมากแค่ไหน และการระบาดจะมากน้อยและระยะเวลานานเพียงใด
ราคาหุ้น MAJOR เช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 19.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มีมูลค่าการซื้อขาย 47.17 ล้านบาท