ผู้เสียหายหลายราย ร้องตำรวจ จำนำรถ พอไปไถ่คืนกลับไม่ได้ อ้างนำรถไปขายแล้ว

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 16 ธันวาคม นายวุฒิพงษ์ ชาวหนองแซง อายุ 48 ปี พร้อมผู้เสียหาย 2 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อัศวเทพ จันทนารี พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมหลักฐาน การ พูดคุย ทางไลน์ การพูดคุย ต่างๆ การโอนเงิน ปริ้นมาพร้อมเป็นหลักฐาน

นายวุฒิพงษ์ เผยว่า เมื่อ 6-7 เดือนก่อน ตนเองนำรถฟอร์จูนเนอร์ ไปจำนำไว้กับ นาย นรินทร์ ( นามสมมุติ) อยู่ในเขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จ.สระบุรี ในราคา 200,000 บาท เสียดอกเบี้ย เดือนละ 20,000 บาท เสียค่าที่จอดรถอีก เดือนละ 2,000 บาท ร่วมต้องเสียเงิน เดือนละ 22,000 บาท นำเอกสารรถ และรถให้เขาไป โดยไม่มีหลักฐานอะไรให้กลับมา เมื่อจะไปไถ่รถคืน นายนรินทร์ บอกว่า รถได้ขายไปแล้ว ไม่มีรถ และไม่มีหลักฐานการจำนำรถด้วย เช่นเดียวกันมีผู้เสียท่านหนึ่ง นำรถเก๋งจำนำไว้ 20,000 บาท จะต้องนำเงิน 50,000 บาท มาไถ่รถ แต่กลับไม่มีรถให้อ้างนำรถไปขายแล้ว และตอนนำรถมาจำนำ เอากล้องในรถออกด้วย

นายวุฒิพงษ์ เผย ตนเองลงโพสต์ ปรากฏว่ามีผู้เสียหายลักษณะเดียวกับตนหลายคน แต่ไม่กล้ามาแจ้งความเกรงกลังอิทธิพล ของนายนรินทร์ นายนรินทร์ เคยนำรถเก๋งป้ายแดงมาเสนอขายให้ในราคา 70,000 บาท ตนเองไม่เอาไม่ซื้อ เชื่อว่านายนรินทร์ นำรถฟอร์จูนเนอร์ของตนนำไปขายในตลาดมือสองประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วเพราะเป็นรถที่ประเทศเพื่อนบ้านต้องการ ส่วนถ้าเป็นรถเก๋งเล็ก น่าจะนำขายยังอยู่ในประเทศไทย เท่ากับว่าที่ผ่านมาตนเองส่งดอกไปฟรีๆ รถไม่อยู่ไม่มีแล้ว ถามที่ไร ก็อ้างว่ารถอยู่รถอยู่ นายนรินทร์ ทำงานอยู่ในบริษัทที่แก่งคอย สระบุรี บ้านอยู่ใกล้ๆ กับ สภ.แก่งคอย เคยเอารถเข้าจอดในบริษัท แต่ไม่ทราบว่า นายนรินทร์ อยู่ในตำแหน่งงานใด

นายวุฒิพงษ์ ได้มาประสานกับ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี นายนรินทร์ อ้างว่า ไม่มีไม่ได้รับจำนำรถ และไม่มีหลักฐาน ไม่มีการจำรถรถใดๆ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ แต่ นายนรินทร์ ไม่ทราบว่า นายวุฒิพงษ์ ผู้เสียหายมีเอกสารการพูดคุย การโอนเงิน กันทางไลน์โทรศัพท์ ที่ได้ปริ้นออกมา เป็นหลักฐานไว้แล้ว

ร.ต.อ.อัศวเทพ กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูว่าเข้าองค์ประกอบในความผิดใด ส่วน นายวุฒิพงษ์ หลังจากนี้ จะนำหลักฐานและใบแจ้งความเข้าร้องขอความเป็นธรรม กับ กองปราบ ต่อไป ขอเพียงได้รถคืนก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นเป็นหน้าที่ของทางกฎหมายของทางตำรวจต่อไป