เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (12 เม.ย.2565)
ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ล่าสุดนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (11 เม.ย.2565)
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (12 เม.ย.2565)
รัสเซียระดมทุนสำรองกว่า 112,800 ล้านบาท ค้ำประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลรัสเซียแถลงในวันอาทิตย์ (10 เมษายน) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียได้ระดมทุนสำรอง 273,400 ล้านรูเบิล (3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือประมาณ 112,854 ล้านบาท รับประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อคลี่คลายและบรรเทามาตรการคว่ำบาตรจากต่างประเทศ
โดยแหล่งที่มาของทุนสำรองใหญ่ที่สุดจำนวน 271,600 ล้านรูเบิล มาจากรายได้จากพลังงานที่ได้รับในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ทั้งนี้ กองทุนสำรองของรัสเซียถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่รู้ล่วงหน้า และมาตรการสำคัญต่าง ๆ ที่ไม่รวมอยู่ในงบประมาณของรัฐบาลกลาง
จากรายงานข่าวชิ้นหนึ่งในวันอาทิตย์ ของสำนักข่าว RT ธนาคารกลางรัสเซียแถลงในวันศุกร์ (8 เมษายน) ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย เพิ่มขึ้น 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 70,550 ล้านบาท ในสัปดาห์จนถึงวันที่ 1 เมษายน มาอยู่ที่ 606,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย ประกอบด้วยกองทุนเงินตราระหว่างประเทศ, สิทธิพิเศษในการถอนเงินและทองคำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เนื่องจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตก ทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย ลดลงจาก 643,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เหลืออยู่ที่ 604,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในวันที่ 25 มีนาคม
แอนตัน ซีลัวนอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย กล่าวในช่วงกลางเดือนมีนาคมว่า เกือบครึ่งหนึ่งของทองคำและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ จากทั้งหมด 640,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกอายัด เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาดูมาของรัสเซีย ได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับการยึดเอาสินทรัพย์ของกลุ่มบุคคลจากประเทศและภูมิภาค “ที่ไม่เป็นมิตร” ให้ตกเป็นของประเทศ ซึ่งทางรัสเซียได้เปิดเผยรายชื่อในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงในวันจันทร์ (11 เมษายน) ว่า รัสเซียมีทรัพยากรเพียงพอในการชำระหนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่เป็นรูปธรรมในการผิดนัดชำระหนี้
ข้อมูล : TNN World
ยูเครนอ้าง เด็กบริสุทธิ์สังเวยสงครามรัสเซียแล้วอย่างน้อย 186 ชีวิต
สำนักงานอัยการสูงสุดของยูเครนโพสต์ผ่านเทเลแกรมเมื่อวันที่ 12 เมษายนว่า เด็กในยูเครนได้เสียชีวิตจากการทำสงครามโจมตียูเครนของรัสเซียไปแล้วอย่างน้อยกว่า 186 ราย และทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บอีก 344 ราย
โดยจำนวนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมากที่สุดอยู่ในแคว้นโดเนตสค์ หนึ่งใน 2 แคว้นในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่ประกาศตัวเป็นอิสระจากยูเครนซึ่งรัสเซียให้การรับรองแล้ว โดยในแคว้นนี้มีเด็กยูเครนต้องสังเวยชีวิตให้กับการรุกรานของทหารรัสเซียแล้ว 113 ราย
นอกจากนี้ยังมีสถาบันศึกษาในยูเครนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกยิงถล่มโจมตี 938 แห่ง โดย 87 แห่งถูกทำลายลงอย่างราบคาบ
ขณะที่ข้อมูลจากกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ระบุว่า เกือบ 2 ใน 3 ของเด็กชาวยูเครนทั้งหมด หรือจำนวนราว 4.8 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองเพื่อหนีภัยสู้รบ หลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ข้อมูล : มติชน
เซเลนสกี เตือนรัสเซียจ่อโจมตีครั้งใหญ่กว่าเดิม
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวปราศรัยทางวิดีโอในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (10 เมษายน) ระบุว่า ช่วงเวลาจากนี้ จะมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการบุกของกองทัพรัสเซีย
ผู้นำยูเครนยังกล่าวผ่านทางรายการ “60 Minutes” ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า ชะตากรรมของยูเครนนั้น ขึ้นอยู่กับการจัดส่งอาวุธของสหรัฐฯ มาให้กับยูเครน เพื่อใช้รับมือกองทัพรัสเซีย และว่า ตนได้ส่งรายชื่ออาวุธที่ยูเครนต้องการไปให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว
โดยประธานาธิบดีไบเดน สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ในฐานะผู้นำที่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนยูเครน ซึ่งได้รับชัยชนะในวิกฤตขัดแย้ง และธำรงไว้ ซึ่งสิทธิในการมีประเทศของตัวเอง
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร รายงานในวันจันทร์ (11 เมษายน) ว่า กองทัพรัสเซียยังคงระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่ใส่เขตปกครองตนเองโดเนตสก์และลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่กองทัพยูเครนก็ยิงตอบโต้จนสร้างความเสียหายต่อรถถัง ยานพาหนะ และอาวุธต่าง ๆ ของรัสเซียเป็นจำนวนมาก
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร ยังแสดงความกังวลด้วยว่า รัสเซียได้ใช้ระเบิดและขีปนาวุธที่ไม่มีระบบนำวิถี ทำให้เกิดการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตประชาชนในยูเครน
ส่วนรัสเซียเตือนสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า อาจเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง หากชาติตะวันตก ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ยังคงส่งอาวุธให้ยูเครน โดยเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ อนาโตลี อันโตนอฟ แถลงระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Newsweek ในนิวยอร์ก ว่า ขณะนี้ ยูเครนเต็มไปด้วยอาวุธจากตะวันตก
จนถึงขณะนี้ สหประชาชาติรายงานว่า มีผู้อพยพย้ายถิ่นฐานจากสงครามในยูเครนแล้วประมาณ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่ามากกว่า 4.5 ล้านคนเดินทางลี้ภัยไปยังประเทศอื่น
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีออสเตรีย คาร์ล เนแฮมแมร์ ได้พบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในวันจันทร์ (11 เมษายน) ที่กรุงมอสโก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้นำประเทศในยุโรปพบหารือกับประธานาธิบดีปูติน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มการโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ในแถลงการณ์หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีออสเตรีย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย และยากยิ่ง โดยข้อความสำคัญที่ตนส่งไปยังผู้นำรัสเซีย คือ วิกฤตในยูเครนจะต้องยุติลง “เพราะในที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายคือผู้พ่ายแพ้ในสงคราม”
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว ออสเตรียรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากกว่าสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเนแฮมแมร์ แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับยูเครน กรณีรัสเซียใช้กำลังบุกยูเครน และประณามปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ขณะเดียวกัน รัฐบาลของเขาก็ได้เข้าร่วมกับชาติอียูอื่น ๆ ในการขับนักการทูตของรัสเซียออกนอกประเทศ
ภาพ: Reuters
ข้อมูล : TNN World
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี