เจ้าหน้าที่ทหารกรมทหารพรานที่ 13 ตรวจเข้มแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จับรถยนต์ลอบขนแรงงานต่างด้าว 10 ราย ฝ่าผืนคำสั่งจังหวัดและ พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองหรือตรวจโรคโควิด-19 ส่งให้ สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก เจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 13 นำโดย พ.อ.สุทัศน์ ยุทธภีมพล ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ได้สั่งการให้ ร.อ.ศิลกัลป์ รักมิตร ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1303 กรมทหารพรานที่ 13 ออกลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณตะเข็บแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากกองกำลังบูรพามีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวด โดยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตลอด 24 ชม.นั้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานฯ แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วานนี้ (7 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้พบการลักลอบเข้า-ออก ราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จึงเข้าจับกุมทันที พบชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และผู้ช่วยเหลือให้เข้าเมือง พร้อมรถยนต์กระบะแบบตู้ทึบมีหลังคา หมายเลขทะเบียน 2ฒค-4782 กรุงเทพมหานคร อีก 1 คัน โดยไม่ผ่านการคัดกรองหรือตรวจโรคโควิด-19 แต่อย่างใด

จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว คนขับรถให้การว่า กำลังจะนำแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดเดินทางไปทำงานรับจ้างที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตมีนบุรี และพื้นที่เมืองชั้นในย่านถนนเจริญกรุง จ.กรุงเทพมหานคร โดยพบแรงงานกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งชายและหญิง จำนวน 9 ราย และคนขับอีก 1 ราย รวม 10 ราย จึงควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด ดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ,ขัดคำสั่งจังหวัดจังหวัดที่ 944/2563 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และผิด พรก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป