รีเซต

เผยราคา MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ เริ่มต้น 559,900 บาท เน้นวิ่งไกล กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ น้ำมันถังเดียว

เผยราคา MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ เริ่มต้น 559,900 บาท เน้นวิ่งไกล กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ น้ำมันถังเดียว
TNN ช่อง16
21 สิงหาคม 2567 ( 23:05 )
15
เผยราคา MG3 HYBRID+ โฉมใหม่ เริ่มต้น 559,900 บาท เน้นวิ่งไกล กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ น้ำมันถังเดียว

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ สำหรับตลาดรถยนต์ B-Segment ภายใต้แนวคิด “อิสระพลัสเวล” ครบ แรง ขับสนุก ประหยัดเหนือชั้น ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะ พร้อมทำการตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 20 - 40 ปี ในราคาเริ่มต้น 559,900 บาท 

ภาพรวมและราคา ALL NEW MG3 HYBRID+ 

ALL NEW MG3 HYBRID+  มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ  ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 559,900 บาท (ราคาสำหรับ 1,000 คันแรก ราคาปกติ 579,900 บาท) และ ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 599,900 บาท (ราคาสำหรับ 1,000 คันแรก ราคาปกติ 619,900 บาท)


โดยรุ่น D และ รุ่น X มีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง (Scarlet Red) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีเทา (Metal Ash Grey) ในรุ่น D ทั้งยังมีสีให้เลือกเพิ่มเติมในรุ่น X คือ สีฟ้า (ST. Moritz Blue) และ สีเหลือง (Pastel Yellow) 


ในขณะที่จุดขายที่สำคัญของ ALL NEW MG3 HYBRID+ คือการนำเสนอระบบ HYBRID+ เทคโนโลยีใหม่จาก MG เสนอประสบการณ์การขับขี่ผสานความลงตัวของทุกระบบไฮบริดผ่าน 8 โหมดขับเคลื่อน ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของผู้ขับขี่ สามารถขับได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุด 26.2 กิโลเมตรต่อลิตร


ข้อมูลสเปก ALL NEW MG3 HYBRID+ 

รถยนต์ไฮบริด MG3 HYBRID+ มีมิติตัวถังที่ปรับปรุงเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,113 มิลลิเมตร กว้าง 1,797 มิลลิเมตร และสูง 1,502 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Synchronous Motor กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันแล้วจะให้กำลังรถรวม 194 แรงม้า (143 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 1.83 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) 


ภายในทุกรุ่นย่อยจะมีหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display) พร้อมหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุดรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มีระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้

รวมถึงติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ในขณะที่ รุ่น X จะได้ กล้องรอบคันแบบ 360 องศา ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย (Wireless Charger) รวมถึงระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ

ระบบความปลอดภัย ALL NEW MG3 HYBRID+ 

MG ประกาศว่า ALL NEW MG3 HYBRID+ ทุกรุ่นย่อย จะได้ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)


ในขณะที่ ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X จะได้ระบบความปลอดภัยเสริม ได้แก่ ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control) ระบบช่วยเตือนการชน FCW และระบบช่วยเบรก AEB ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้ขับเคลื่อนอยู่ในเลน (LKA / LDP / LDW) รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)


การตลาดของ ALL NEW MG3 HYBRID+ 

ALL NEW MG3 HYBRID+ เปิดตัวเพื่อบุกตลาด B-Segment ในฐานะรถยนต์ไฮบริดที่มีสมรรถนะสูง พร้อมประกาศว่ารถ MG3 HYBRID+ นั้นเป็นรถยนต์ในระดับ "Best-In-Class" ในรถยนต์กลุ่ม B-Segment โดยจัดกิจกรรมเพื่อเสริมภาพความเชื่อมั่น เช่น การทดสอบขับจริงบนท้องถนน ผ่านกิจกรรมขับทางไกล "กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ด้วยน้ำมันถังเดียว" เพื่อให้เห็นว่ารถยนต์เมื่อขับขี่บนถนนจริง สามารถวิ่งได้ไกล 800 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถัง 


นายซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่ เอ็มจี ได้ทำการเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (Nationwide launch) โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นที่ สยามสแควร์วัน นอกจากนี้ ในภูมิภาคต่าง ๆ ได้มีการจัดงานเปิดตัวในย่านสำคัญของแต่ละพื้นที่ โดยในทุกสถานที่จะมีกิจกรรมพิเศษต่อเนื่องจากการเปิดตัว เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด"


โดย เอ็มจี พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถจองและทดลองขับ ALL NEW MG3 HYBRID+ ได้ที่ งาน BIG MOTOR SALE 2024 และศูนย์บริการของ เอ็มจี 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป


ข้อมูลจาก MG Sales (ประเทศไทย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง