ยืมเงินไม่มีหลักฐาน ฟ้องได้หรือไม่? เจาะลึกกฎหมายกู้ยืมเงิน
ยืมเงินไม่มีหลักฐาน ฟ้องได้หรือไม่? เจาะลึกกฎหมายกู้ยืมเงิน พร้อมวิธีรับมือเมื่อคนยืมไม่คืน! หากไม่มีหลักฐานต้องทำอย่างไร? มีหลักฐานอะไรใช้ฟ้องได้บ้าง? ป้องกันปัญหาด้วยการทำสัญญาและเก็บหลักฐานให้รัดกุม
การให้ยืมเงินเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือการยืมเงินโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและข้อพิพาทตามมา หากผู้ยืมไม่ยอมคืนเงิน ผู้ให้ยืมจะสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้หรือไม่? บทความนี้จะเจาะลึกประเด็นนี้ตามหลักกฎหมาย พร้อมแนะนำวิธีรับมือเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว
กฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินอย่างไร?
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ระบุชัดเจนว่า หากมีการกู้ยืมเงินเกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และ ลงลายมือชื่อผู้ยืม มิฉะนั้นจะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้
หลักฐานอะไรใช้ฟ้องได้บ้าง?
- หลักฐานเป็นหนังสือ: สัญญากู้ยืมเงิน จดหมาย หรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีรายละเอียดการกู้ยืมครบถ้วนและมีลายมือชื่อผู้ยืม
- หลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์: แชท ข้อความ อีเมล หรือบันทึกการสนทนาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการกู้ยืมและสามารถระบุตัวตนของผู้ยืมได้
- พยานบุคคล: ผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์การกู้ยืมเงิน สามารถเป็นพยานในชั้นศาลได้
ถ้าไม่มีหลักฐานเลย ทำอย่างไร?
หากไม่มีหลักฐานใด ๆ การฟ้องร้องบังคับคดีจะเป็นไปได้ยากมาก แต่ไม่ใช่ว่าจะสิ้นหวังเสียทีเดียว ผู้ให้ยืมสามารถลองใช้วิธีดังต่อไปนี้:
- เจรจา: พยายามเจรจากับผู้ยืมโดยตรง หาทางออกร่วมกัน อาจมีการตกลงผ่อนชำระ หรือหาคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย
- รวบรวมหลักฐาน: หากมีหลักฐานแม้เพียงเล็กน้อย เช่น บันทึกการโอนเงิน หรือข้อความที่บ่งบอกถึงการยืมเงิน ก็อาจนำมาใช้ประกอบการเจรจาหรือปรึกษาทนายความได้
- ปรึกษาทนายความ: หากไม่สามารถตกลงกันได้ ควรปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำและพิจารณาแนวทางดำเนินการตามกฎหมาย
ข้อควรระวังและคำแนะนำ
- ทำสัญญากู้ยืมเงินทุกครั้ง: แม้จะเป็นการยืมเงินระหว่างคนรู้จัก ก็ควรทำสัญญากู้ยืมเงินอย่างเป็นทางการเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
- เก็บหลักฐานให้รัดกุม: หากไม่สามารถทำสัญญาได้ ควรมีหลักฐานอื่น ๆ เช่น หลักฐานการโอนเงิน บันทึกข้อความ หรือพยานบุคคล
- หลีกเลี่ยงการให้ยืมเงินจำนวนมากโดยไม่มีหลักฐาน: หากจำเป็นต้องให้ยืมเงินจำนวนมาก ควรทำสัญญาและมีหลักฐานให้ครบถ้วน
การยืมเงินโดยไม่มีหลักฐานอาจสร้างปัญหาตามมาภายหลัง ดังนั้น การทำสัญญาและเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันข้อพิพาทและสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้อย่างเต็มที่ หากเกิดปัญหา ควรปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
ภาพ Getty Images