ลุงถูกยิงไส้ทะลัก กลางวงเหล้าขาว เจ้าของปืนคู่ดื่ม อ้างปืนลั่นใส่
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ต.อ.ไพสิฐ แก้วจรัส ผู้กับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สามารถ สุคง สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ ผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณบ้านพักหลังวัดหนองสลิด เลขที่ 23 พื้นที่ หมู่ 6 ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ที่เกิดเหตุพบ นายไสว ดาภา อายุ 50 ปี อยู่ในสภาพเมาสุรา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้ โดยที่บริเวณร้านใต้ถุนบ้านพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายไพฑูรย์ หลากสุขถม อายุ 60 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด เข้าที่บริเวณหน้าท้องด้านซ้ายเกือบถึงเอว จนมีไส้ไหลทะลักออกมา นอนร้องด้วยความเจ็บปวด ใกล้กันพบปลอกกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุทัยธานี ได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งทำการรักษาช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถาม นายไสว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ และเป็นเจ้าของอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพมึนเมา เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองและผู้บาดเจ็บคือ นายไพฑูรย์ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ได้นั่งดื่มสุราขาวอยู่ด้วยกัน โดยต่อมาตนเองนั้นได้นำปืนลูกซองยาว 5 นัด มาทำความสะอาด แต่จู่ๆนายไพฑูรย์ฯนั้น ก็ได้มาแย่งปืนไป ซึ่งต่างคนต่างก็ตกใจ จนทำให้ปืนนั้นลั่นใส่เข้าไปที่หน้าท้องของนายไพฑูรย์ฯ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ตนเองก็ได้รีบ โทรแจ้งให้รถพยาบาลมารับตัวนายไพฑูรย์ฯ ไปทำการรักษาตัว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเข้ามาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งการเกิดเหตุในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุไม่ได้มีการตั้งใจหรือจงใจกระทำแต่อย่างใด นายไสว กล่าว
โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบว่า ปืนลูกซองยาว 5 นัด ซึ่งเป็นปืนที่เกิดเหตุนั้น ได้วางอยู่บริเวณข้างฝาบ้านและมีผ้าพันปืนไว้ โดยพบว่ายังมีลูกกระสุนคาลำอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ยังคงไม่ปักใจเชื่อตามคำกล่าวอ้างของนายไสวฯ ว่าเป็นเหตุแย่งปืนและปืนลั่นจริง ด้วยเหตุเพราะพบปลอกกระสุนลูกซองขนาด 12 นั้น ตกอยู่ด้วยกันถึง 3 ปลอก พร้อมทั้งยังพบพิรุธอีกหลายอย่าง ต้องให้ทีมเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนสอบสวน และทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนอาการของนายไพฑูรย์ฯ ผู้บาดเจ็บนั้นขณะนี้ยังคงอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นบาดแผลที่สาหัสเป็นอย่างมาก