รีเซต

อธิบดีสบส.-เลขาฯสปสช. ชี้จุดยื่นคำร้องให้รัฐจ่ายค่าเสียหาย หากป่วยหลังฉีดวัคซีนโควิดจากรัฐ

อธิบดีสบส.-เลขาฯสปสช. ชี้จุดยื่นคำร้องให้รัฐจ่ายค่าเสียหาย หากป่วยหลังฉีดวัคซีนโควิดจากรัฐ
มติชน
7 พฤษภาคม 2564 ( 15:38 )
110

อธิบดีสบส.-เลขาฯสปสช. ชี้ ป่วยหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 รัฐจ่ายค่าเสียหาย ยื่นคำร้องที่ รพ.ที่ฉีดวัคซีน-สธ.ทุกจังหวัด-สปสช.เขต ยันฉีควัคซีนที่รัฐจัดหาไม่เสียเงิน

 

 

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.เด็จ ธรรมรัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความสับสนของประชาชนต่อการฉีดวัคซีน เช่น การฉีดวัคซีนยี่ห้อที่รัฐบาลจัดหาให้ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในกรณีวัคซีนทางเลือกเป็นอย่างไร

 

 

โดย นพ.ธเรศ กล่าวว่า ในขณะนี้มีแต่วัคซีนที่เป็นวัคซีนของภาครัฐซึ่งดำเนินการอยู่และทางสปสช.ได้ออกข้อบังคับ หากฉีดวัคซีนเกิดความเสียหายจะได้รับเงินดูแลรักษาเยียวยา ซึ่งระเบียบนี้เฉพาะวัคซีนที่รัฐจัดให้เท่านั้น ในอนาคตเมื่อมีวัคซีนทางเลือกก็จะเป็นระบบของวัคซีนทางเลือก เป็นความรับผิดชอบของสถานพยาบาลเอกชนที่นำเข้ามา

 

 

เมื่อถามว่าในกรณีที่ใช้บริการวัคซีนของรัฐและมีการเสนอให้บริการพิเศษ เช่น ฉีดเสร็จให้นอนพัก 1 คืน มีการตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ในส่วนเหล่านี้เป็นส่วนค่าใช้จ่ายที่รัฐสนับสนุนหรือเป็นข้อเสนอพิเศษที่ทางเอกชนเสนอให้กับผู้มารับบริการ นพ.ธเรศ กล่าวว่า จากที่กล่าวมาเป็นแพ็กเกจเสริม แต่ตอนนี้กำลังคุยกับโรงพยาบาลเอกชนเพื่อไม่ทำให้ประชาชนสับสนว่าการไปฉีดวัคซีนและต้องจ่ายเงิน เพราะรัฐมีภารกิจหลักที่จะผลักดันให้ทุกคนฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจึงขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนไม่ให้การฉีดวัคซีนผูกกับแพ็คเกจต่างๆ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแล้ว

 

 

เมื่อถามว่าในส่วนของวัคซีนสปสช.จะทำงานร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนอย่างไร นพ.จเด็จ กล่าวว่า วัคซีนของรัฐเป็นวัคซีนที่อยู่ในการศึกษาทดลอง ดังนั้นจะเกิดความเสียหายได้ แต่เมื่อวันจันทร์ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีมติที่จะจัดงบประมาณส่วนหนึ่งสำหรับประชาชนคนไทยทุกคนที่ฉีดวัคซีนและเกิดความเสียหายอย่างเช่นมีความเจ็บป่วยต่อเนื่อง ประชาชนสามารถยื่นเรื่องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวได้โดยยื่นเรื่องที่โรงพยาบาลที่ได้รับการฉีดวัคซีน, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ทุกจังหวัด , สปสช.เขต

“โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาในระดับเขต เมื่อได้รับเรื่องแล้วพิจารณาภายใน 5 วัน หากพิจารณาแล้วว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนจ่ายเงินให้กับผู้มาร้อง โดยอัตราเบื้องต้น สำหรับผู้เจ็บป่วยต่อเนื่องไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับผู้ที่เจ็บป่วยมากกรณีเสียอวัยวะ หรือพิการ 240,000 บาท กรณีเสียชีวิต 400,000 บาท”

 

 

ซึ่งจากข้อมูลเชื่อว่าวัคซีนไม่มีการสูญเสียที่รุนแรง แต่กลไกดังกล่าวเป็นกลไกที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในเบื้องต้นว่าการฉีดวัคซีนรัฐได้พยายามดูแลทุกขั้นตอนเพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการมาฉีดวัคซีน

 

 

เมื่อถามว่ากลไกดังกล่าวเป็นส่วนเพิ่มเติมจากการทำประกันสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนด้วยใช่หรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่ากลไกดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประกันสุขภาพใดๆ ถ้าประชาชนฉีดแล้วเสียหายสามารถมาเบิกได้เพราะเป็นงบประมาณที่รัฐจัดให้

 

 

เมื่อถามถึงสิทธิ์เบิกค่ารักษาในกรณีที่มีประกันสุขภาพ จะใช้สิทธิ์ไหนในการเบิกค่ารักษาพยาบาลก่อน นพ.จเด็จ กล่าวว่า ‘ตามมติคณะรัฐมนตรี ท่านใดที่มีสิทธิ์ในประกันสุขภาพส่วนตัวให้ใช้สิทธิ์ประกันส่วนตัวก่อนการจากนั้น ถ้ามีค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้มาเรียกเก็บจากสปสช. จึงไม่มีส่วนที่จะต้องไปเรียกเก็บจากประชาชนถึงแม้ในบางคนจะไม่มีประกันส่วนตัวก็มาเก็บจากสปสช.ทั้งหมด’

 

 

“กระทรวงสาธารณสุขอยากให้ความมั่นใจ หากประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 หรือต้องการตรวจหาเชื้อโควิค สามารถไปรับการรักษาหรือรับการตรวจโดยไม่คิดมูลค่าทั้งสิ้นทั้งในรัฐและเอกชน เนื่องจากระบบสุขภาพของเรากำหนดไว้คล้ายในแต่ละคนที่ก็มีสิทธิ์ของตัวเอง เช่น ประกันสังคมก็จะมีสิทธิ์โรงพยาบาลประกันของตัวเองอยู่ หลักประกันสุขภาพก็จะมีโรงพยาบาลของประกันสุขภาพที่สังกัดอยู่ ระบบนี้ออกแบบไว้ให้มีการกระจายเพื่อที่จะไม่แน่นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งรวมทั้งอาจจะมีประวัติข้อมูลพื้นฐาน ถ้าไปตามแหล่งต่างๆที่กำหนดขอบเขตไว้ก็จะทำให้การบริการเป็นไปได้อย่างดี

 

 

แต่ในกรณีฉุกเฉินไม่มั่นใจก็สามารถไปโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ได้โดยไม่เสียมูลค่า ขอให้ความมั่นใจและฝากถึงโรงพยาบาลเอกชนหากมีปัญหาสงสัยในเรื่องของค่าใช้จ่ายมีสายด่วน สบส. 1426 เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชนและเกิดเรื่องร้องเรียนตามมา ” นพ.ธเรศ กล่าวว่า

 

 

“ขอเน้นย้ำกับประชาชนว่าการที่เจ็บป่วยโควิด-19 รัฐบาลได้จัดงบประมาณทั้งหมดแล้วในการดูแลรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ที่ผ่านมาอาจจะมีความเข้าใจผิด หากไม่มั่นใจสามารถโทรมาที่ สายด่วน สปสช. 1330 และกด 1 2 จะมีเจ้าหน้าที่รับสาย

 

 

และโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งสปสช.ได้ปรับกระบวนการจ่ายเงินให้อย่างรวดเร็วแล้วราคาต่างๆได้มีกาพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วจึงขอความร่วมมือในการปฏิบัติ หากไม่แน่ใจก็สามารถโทร 1330 เป็นสายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเบิกเงินให้ได้เร็วและครบถ้วนจะได้ไม่มีการเรียกเก็บจากประชาชนและทำให้เกิดความเข้าใจผิดและการร้องเรียนการเกิดขึ้น ” นพ.จเด็จ ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง