TISCOรักษาระดับผลงาน ปี67เป้าโตในกรอบ 0-10%

#TISCO # ทันหุ้น - TISCO ตั้งเป้าปี 2567 รายได้เติบโตในกรอบ 0-10%ขณะที่สินเชื่อยังมีดีมานด์ โดยจะเน้น สินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยเฉพาะ “สมหวัง เงินสั่งได้” พร้อมขยายสาขาเพิ่มอีก 200 แห่ง เปิดกำไรปี66 ที่ 7,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1%

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ หรือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้ของ TISCO จะเติบโตอยู่ในกรอบ 0-10% และสินเชื่อรวมของ TISCO ก็คาดว่าจะเติบโตในกรอบเดียวกัน ซึ่งจะพยายามผลักดันให้มีการเติบโต ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยคาดว่าสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5-2.75% จากปี 2566 อยู่ที่ 2.22%ของสินเชื่อรวม

ทั้งนี้ TISCO ยังมุ่งเน้นการเติบโตต่อเนื่องเริ่มจากกลุ่มธุรกิจสินเชื่อ เนื่องจากมองว่าความต้องการใช้เงินเพื่อนำไปทำธุรกิจยังมีมากคาดว่าจะสร้างการเติบโตในระดับเดียวกันกับเศรษฐกิจไทย โดยมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อ และการบริหารจัดการความเสี่ยงของลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยสินเชื่อรายย่อยจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ของลูกค้า (Debt Service Ratio)

*เน้นสินเชื่อมีหลักประกัน

ซึ่งในปี 2567 ยังคงเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกันที่ TISCO มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สินเชื่อจำนำทะเบียน ในธุรกิจสมหวัง เงินสั่งได้ ปี 2567 มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 200 สาขา โดนสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาราว 850 แห่งทั่วประเทศ 

และรักษาตำแหน่งทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ โดยเน้นกลุ่มสินเชื่อรถมือสอง สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และสนับสนุนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังเห็นโอกาสการเติบโตในสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก

ในส่วนของธุรกิจธนบดีธนกิจและตลาดทุน เน้นให้บริการการให้คำแนะนำอย่างผู้เชี่ยวชาญแบบองค์รวม (Holistic Financial Advisory) โดยครอบคลุมด้านการวางแผนการเงิน การลงทุน ความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพ ตลอดจนการวางแผนเพื่อคุณภาพชีวิตหลังการเกษียณ 

พร้อมยกระดับความสามารถการให้บริการในช่องทางดิจิทัลที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Mass Affluent ที่มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

ด้านธุรกิจนายหน้าประกันภัย จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนบริหารความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยดึงจุดแข็งและความเชี่ยวชาญในการให้บริการประกันภัยอย่างครบวงจรมาขยายพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ โดยมุ่งให้เกิดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบัน

"ในปี 2567 นี้ TISCO มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงรุมล้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยและต้นทุนทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่เศรษฐกิจเองก็มีความไม่แน่นอน  ” นายศักดิ์ชัย กล่าว

*ปี 66 กำไร 7,303 ล้านบาท

ทางด้านผลการดำเนินงานของ TISCO  ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 7,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% มาจากการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อที่ขยายตัวถึง 7.2% จำนวน 234,815 ล้านบาท ในกลุ่มสินเชื่อขนาดใหญ่ในลูกค้ากลุ่มธุรกิจพลังงาน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เติบโตถึง 33%

และสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียนผ่านช่องทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่เพิ่มขึ้นกว่า 25%ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.6%แม้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 93.9%ซึ่งเป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด และการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุน FIDF กลับสู่ระดับปกติที่ 0.46% ต่อปี

ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอ่อนตัวลง 6.4% จากธุรกิจตลาดทุนที่ผันผวนรุนแรง ทั้งค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลงอย่างมาก รวมถึงการรับรู้ผลขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) 

ประกอบกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ชะลอตัวลงตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลง ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อชะลอตัวจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์