รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (30 มี.ค.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (30 มี.ค.2565)
TeaC
30 มีนาคม 2565 ( 19:03 )
1.3K

ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ยูเครนวอนกาชาดสากล อย่าเข้าไปตั้งสำนักงานในรัสเซีย เกรงจะถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องมือ จัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมที่มีการบังคับผู้อพยพเข้าไปในรัสเซีย อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (29 มี.ค.2565)


เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (30 มี.ค.2565)

 

ปูตินลั่น ถ้า ‘มารีอูปอล’ ยอมแพ้ จะยอมหยุดยิง

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ในแถลงการณ์ของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า จะหยุดยิงถล่มเมืองมารีอูปอล เมืองติดทะเลทางตอนใต้ของยูเครน ก็ต่อเมื่อทหารยูเครนยอมแพ้ โดยนายปูตินได้กล่าวไว้ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ราว 1 ชั่วโมง กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เมื่อคืนวันที่ 29 มีนาคม

 

ด้านฝั่งรัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่า ผู้นำของรัสเซียตกลงที่จะพิจารณาแผนอพยพพลเรือนออกจากเมืองมารีอูปอล และนายปูตินได้กล่าวต่อว่า เพื่อแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรมในเมือง กลุ่มทหารยูเครนต้องหยุดการต่อต้านและวางอาวุธลง

 

ในแถลงการณ์ยังระบุต่อว่า นายปูตินได้บอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการของกองทัพรัสเซียในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉิน และให้ความมั่นใจว่าจะสามารถอพยพพลเรือนออกจากเมืองมารีอูปอลที่ถูกล้อมไว้ได้อย่างปลอดภัย

 

ทั้งนี้ยูเครนได้กล่าวหาว่ารัสเซียได้บังคับประชาชนหลายพันคนย้ายจากเมืองมารีอูปอลไปยังดินแดนที่รัสเซียปกครอง โดยทางการยูเครนระบุว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน มีชาวมารีอูปอลที่เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย

 

ข้อมูล : มติชน

 

คลังแสงในรัสเซียบึ้มสนั่น คาดเจอขีปนาวุธยูเครนยิงถล่ม

เดลีเมล์ รายงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมาระบุว่า เกิดเหตุคลังแสงในเมืองเบลโกรอด เมืองทางตะวันตกของรัสเซีย ห่างจากชายแดนยูเครนราว 19 กิโลเมตร ระเบิดจนเกิดลูกไฟขนาดใหญ่มองเห็นได้จากระยะไกล โดยคาดว่าคลังแสงดังกล่าวอาจโดนขีปนาวุธจากกองทัพยูเครนโจมตี

 

รายงานระบุว่าคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นการระเบิดต่อเนื่องและลูกไฟพุ่งขึ้นจากจุดเกิดเหตุคล้ายกับดอกไม้ไฟ โดยมีรายงานว่าคลังแสงดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน นอกเมืองเบลโกรอด

 

ยูรีย์ บูตูซอฟ ผู้สื่อข่าวชาวยูเครน ระบุว่า คลังแสงดังกล่าวถูกทำลายโดยขีปนาวุธความเร็วสูง OTR-21 Tochka-U ยิงโดยหน่วยขีปนาวุธ Ukrainian ที่ 19 โดยหากได้รับการยืนยันจริงจะนับเป็นการโจมตีเข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ด้านผู้ว่าการเมืองเบลโกรอด ของรัสเซีย ยืนยันเหตุะระเบิดที่คลังแสงดังกล่าวโดยระบุว่าไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ แต่ปฏิเสธที่จะระบุถึงสาเหตุของการระเบิดดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย รายงานว่ามีนายทหารรัสเซียได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และระบุว่ารายงานสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากขีปนาวุธจากประเทศยูเครน

 

ทั้งนี้เหตุโจมตีดังกล่าวโดยมีเป้าหมายที่เมืองเบลโกริดมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่ตัวแทนเจรจาของรัสเซียประกาศที่จะลดกิจกรรมทางทหารโดยรอบเคียฟ และเมืองเชอร์นิกอฟลง ในการหารือสันติภาพที่ประเทศตุรกีในวันเดียวกัน

 

 

ข้อมูล : มติชน

 

Amnesty ชี้ มีหลักฐานรัสเซียโจมตีพยาบาล-โรงเรียนในยูเครน

องค์การนิรโทษกรรมสากล เปิดหลักฐานกองทัพรัสเซียโจมตีเป้าหมายพลเรือนในยูเครนทั้งโรงพยาบาลและโรงเรียน
มารี สตรัทเธอร์ส ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ Amnesty ประจำยุโรปตะวันออกและเอเชียกลาง เปิดเผยว่า องค์การนิรโทษกรรมสากล มีหลักฐานการโจมตีพลเรือนในยูเครน โดยกองทัพรัสเซียโจมตีเป้าหมายโรงพยาบาลและโรงเรียน 
กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดังกลุ่มนี้ ได้เผยแพร่รายงานประจำปีในวันอังคาร (29 มีนาคม) ซึ่งถูกบดบังจากสถานการณ์วิกฤตในยูเครน
สตรัทเธอร์ส กล่าวว่า รัสเซียกำลังใช้วิธีการปิดล้อมเดิม ๆ ที่เคยใช้ในสงครามซีเรียและเชชเนีย ซึ่งพลเรือนตกเป็นเป้าหมายการโจมตีแบบไม่เลือกหน้า และยังมีการใช้กระสุนดาวกระจาย ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

 

ทางองค์การนิรโทษกรรมสากล ยินดีที่อย่างน้อยมี 39 ประเทศ ดำเนินการอย่างรวดเร็วในการเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เปิดการสอบสวนความเป็นไปได้ในการก่ออาชญากรรมสงครามในดินแดนยูเครน

 

รวมถึงการลักพาตัว และการบังคับให้ชาวยูเครนทิ้งถิ่นฐานบ้านเรือนอพยพไปยังรัสเซีย ซึ่งสำนักงานสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ มีหลักฐานซึ่งหากพิสูจน์ว่าเป็นจริง ก็ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน และเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาดภายใต้อนุสัญญาเจนีวา

 

อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอด ว่าไม่ได้โจมตีเป้าหมายพลเรือน

 

นอกจากนี้ องค์การนิรโทษกรรมสากล ยังได้เรียกร้องให้ทหารยูเครนหยุดบันทึกภาพทหารรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลยศึก เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของพวกเขาเช่นกัน

 

ทั้งนี้ สงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ซึ่งเป็นความขัดแย้งในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีชาวยูเครนอพยพลี้ภัยออกนอกประเทศแล้วกว่า 3.8 ล้านคน เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหลายพันคน และเศรษฐกิจของรัสเซียถูกโดดเดี่ยว

 

ข้อมูล : TNN World

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง