เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (28 มี.ค.2565)
ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ยูเครนวอนกาชาดสากล อย่าเข้าไปตั้งสำนักงานในรัสเซีย เกรงจะถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องมือ จัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมที่มีการบังคับผู้อพยพเข้าไปในรัสเซีย อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 มี.ค.2565)
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (28 มี.ค.2565)
รัสเซียใกล้ยึดมารอูโปลได้แล้ว ส่งทหารรับจ้างพันนายเข้าไปแในยูเครน ด้านยูเครนยึดคืนได้อีก 2 เมือง
นายกเล็กมารีอูโปลระบุ มารีอูโปลตกอยู่ในมือรัสเซียแล้ว หากรัสเซียยึดมารีอูโปลได้ จะนับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สุดของรัสเซียในวิกฤตนี้ รัสเซียส่งทหารรับจ้าง 1,000 คนไปภาคตะวันออกยูเครน หลังการบุกกรุงเคียฟหยุดชะงัก ขณะที่ยูเครนยึดคืนได้อีก 2 เมือง
วาดีม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูโปล ระบุล่าสุดว่า มารีอูโปลตกอยู่ในมือรัสเซียแล้ว โดยทหารรัสเซียเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองท่าแห่งนี้ได้ หลังล้อมเมืองมารีอูโปลมานานนับเดือน
นายกเล็กมารีอูโปล ซึ่งไม่ได้อยู่ในมารีอูโปล ระบุต่อไปว่า สภาพของเมืองใกล้เข้าขั้นหายนะ และจะต้องอพยพชาวเมืองออกทั้งหมด พร้อมระบุยอดผู้เสียชีวิตในเมืองนี้เกือบ 5,000 คน และอีก 160,000 คน ติดอยู่ในเมืองไม่มีน้ำสะอาดและไฟฟ้า ทั้งนี้ ประชากรเมืองมารีอูโปลก่อนถูกรัสเซียโจมตี อยู่ที่กว่า 400,000 คน
หากมารีอูโปลถูกยึดครอง จะนับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในวิกฤตครั้งนี้ หลังจากล้มเหลวในการบุกยึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และเมืองสำคัญอื่น ๆ ตามแผนที่รัสเซียวางไว้ และเกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียเพิ่งเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์การบุกยูเครนครั้งสำคัญ หลังสงครามผ่านไปนาน 1 เดือน โดยหดเป้าหมายให้แคบลงมาเป็นการยึดมารีอูโปลทางใต้ และเมืองเชอร์นิฮิฟทางเหนือของยูเครน แทนการพยายามบุกยึดกรุงเคียฟ
ขณะเดียวกัน ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร ระบุว่า จากข้อมูลข่าวกรองล่าสุด ทหารรับจ้างจากกลุ่มแวกเนอร์ของรัสเซียราว 1,000 คน กำลังเดินทางไปยังภาคตะวันออกของยูเครน ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียกำลังสู้รบกับรัฐบาลยูเครนอยู่
ทั้งนี้ ทหารรับจ้างกลุ่มแวกเนอร์ เป็น 1 ในองค์กรที่ลึกลับมากที่สุดในรัสเซีย กลุ่มนี้ถือว่าไม่มีตัวตนอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อกันว่า มีทหารรับจ้างรวมแล้วถึง 10,000 คน ที่เคยทำงานให้กับกลุ่มนี้ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา โดยถูกส่งไปยังจุดที่เกิดสงคราม อย่างเช่น ซีเรีย ลิเบีย และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง
ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในกรุงเคียฟและเมืองอื่น ๆ ของยูเครน ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า การบุกกรุงเคียฟหยุดชะงัก หลังจากรัสเซียเปลี่ยนเป้าหมายจากเมืองหลวงยูเครน ไปเน้นภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนแทน
แต่ทางด้านกระทรวงกลาโหมของยูเครนระบุว่า ยังมองไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ว่า รัสเซียจะลดละจากแผนปิดล้อมกรุงเคียฟ และยังไม่เห็นทหารรัสเซียเคลื่อนทัพออกห่างไปจากเคียฟแต่อย่างใด
ส่วนทางด้านยูเครนยึดคืนได้อีก 2 เมือง คือ เมืองอีร์พิน กับเมืองทรอสเทียเน็ตส์ ใกล้กับเมืองซูมี กลับคืนมาจากทหารรัสเซียได้ โดยเมืองอีร์พินนั้น อยู่ใกล้กรุงเคียฟมาก ห่างไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น โดยสหรัฐฯ ยืนยันว่า ทหารยูเครนเข้าควบคุมอีร์พินได้ทั้งหมดแล้ว
ข้อมูล : TNN World
กองทัพรัสเซียสร้างเส้นทางรอบกรุงเคียฟ หวังขวางการส่งเสบียง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมของยูเครน เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 มีนาคมว่า กองทัพรัสเซียกำลังพยายามสร้างเส้นทางรอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เพื่อปิดกั้นเส้นทางส่งเสบียงต่างๆ ขณะที่การสู้รบในพื้นที่ชานกรุงเคียฟยังดำเนินต่อไป
นางฮานนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่านทางโทรทัศน์ว่า “ศัตรูพยายามที่จะสร้างเส้นทางรอบกรุงเคียฟ และปิดกั้นเส้นทางขนส่ง และการป้องกันกรุงเคียฟยังดำเนินต่อไป โดยที่กองกำลังภาคพื้นดิน กองทัพอากาศ กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังป้องกันดินแดนเข้าร่วมด้วย ส่วนประชาชนในกรุงเคียฟยังคงช่วยป้องกันกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับศัตรูที่จะบุกเข้ามา แต่ต้องพูดตามตรงว่า ศัตรูไม่ยอมล้มเลิกความความพยายามที่จะยึดเคียฟ เพราะการยึดเคียฟได้ นั่นหมายถึงการยึดยูเครนได้ ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายของรัสเซีย”
หน่วยปกครองทางทหารของแคว้นเคียฟ กล่าวในแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า บริเวณชานกรุงเคียฟอย่าง เมืองบูชา อีร์ปิน โฮสโตเมล และมาคารีฟ รวมถึงเส้นทางสัญจรระหว่างเมืองซีโตมีร์ ไปทางทิศตะวันตก และพื้นที่ทางเหนือของเมืองวิชโฮรอดยังคงอันตรายมาก และมีแนวโน้มที่จะ ถูกรัสเซียโจมตีตลอด โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์โจมตีมากกว่า 40 ครั้งซึ่งได้ทำลายบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน”
ข้อมูล : มติชน
เคียฟเผย ทัพรัสเซียบุกขยี้ยูเครน ก่อความเสียหายแล้วกว่า 2.1 ล้านล้านบาท
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งเคียฟ ประเทศยูเครน ได้ประมาณการความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน ที่ได้รับความเสียหายจากการทำสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียว่ามีมูลค่าแล้วมากกว่า 63,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท โดยการประมาณการดังกล่าวคำนวณจากผลกระทบทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่การบุกยูเครนของรัสเซียจนถึงวันที่ 24 มีนาคม ที่ได้ส่งผลให้อาคารที่อยู่อาศัยพังเสียหาย ถูกทำลายหรือถูกยึดไปอย่างน้อย 4,431 หลัง โรงงานและโกดังสินค้าเสียหายอีก 92 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 378 แห่ง สนามบินเสียหายหรือถูกยึดอีก 12 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและพลังงานความร้อนเสียหายหรือถูกยึดอีก 7 แห่ง
ทั้งนี้ ทางสถาบันเคยเผยแพร่การคาดการณ์ครั้งก่อน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม โดยมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์ (117,967 ล้านบาท)
ข้อมูล : มติชน
ยูเครนวอนกาชาดสากล ไม่จัดตั้งสำนักงานในรัสเซีย เกรงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ
ยูเครนวอนกาชาดสากล อย่าเข้าไปตั้งสำนักงานในรัสเซีย เกรงจะถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องมือ จัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมที่มีการบังคับผู้อพยพเข้าไปในรัสเซีย
เจ้าหน้าที่ยูเครน ออกมาเรียกร้องคณะกรรมการกาชาดสากล หรือ ICRC ไม่ให้เปิดสำนักงานในเมืองรอสตอฟ-ออน-ดอน ทางตอนใต้ของรัสเซีย เพราะจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ระเบียงมนุษยธรรมของรัสเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครน กล่าวหาว่า มีการจับลักพาตัว และบังคับชาวยูเครน ส่งอพยพเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียปฏิเสธกรณีดังกล่าวแล้ว
อีรินา เวเรชชุค เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านมนุษยธรรมของยูเครน คือผู้ที่เรียกร้องเรื่องดังกล่าว พร้อมบอกด้วยว่า ICRC กำลังถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อตั้งระเบียงมนุษยธรรมที่ปลอดภัยที่น่าละอายขึ้นมา
ด้าน ICRC ออกมาระบุว่า ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนยืนยันเกี่ยวกับรายงานที่ว่า มีการบังคับผู้อพยพจากยูเครน เข้าไปในรัสเซีย ICRC ไม่ได้อำนวยความสะดวกในเรื่องทำนองนี้ ภารกิจหลักแรกเริ่มของ ICRC คือ พยายามเข้าถึงผู้ประสบภัยการสู้รบ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เพื่อว่าจะเข้าไปช่วยเหลือกันได้
ข้อมูล : TNN World
ผู้นำยูเครยบอกสื่อรัสเซีย พร้อมเป็นกลาง เพื่อยุติสงคราม รัสเซียสั่งห้ามเผยแพร่บทสัมภาษณ์
ผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซียพร้อมคุยสถานะความเป็นกลาง โดยพูดภาษารัสเซียตลอดการสัมภาษณ์ ผู้แทนเจรจายูเครน-รัสเซีย นัดคุยกันอีกวันนี้-วันพุธ ที่ตุรกี ผู้นำฝรั่งเศส เตือนต่อความยาวสาวความยืดในสงครามยูเครนจะกระทบการเจรจาหยุดยิง
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวีดิโอคอล กับสื่ออิสระแห่งหนึ่งที่ไม่ระบุชื่อแน่ชัดของรัสเซีย ผู้นำยูเครนกล่าวถึงส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียว่า ยูเครนพร้อมพุดคุยเกี่ยวกับสถานะความเป็นกลาง แต่ต้องได้รับการรับประกันจากฝ่ายที่สามด้วยจากนั้นต้องมีการทำประชามติยืนยัน และกล่าวว่า การรุกรานของรัสเซีย ได้สร้างความเสียหายให้กับเมืองต่าง ๆ ของชุมชนผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครน
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าเซเลนสกีพูดภาษารัสเซียตลอดการให้สัมภาษณ์ซึ่งเรื่องการใช้ภาษารัสเซียก็เป็นอีกหัวข้อหลักในการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ผู้นำยูเครนกล่าวเสริมด้วยว่า ยูเครนพร้อมคุยทั้งเรื่องการรับประกันด้านความมั่นคง สถานะความเป็นกลาง หรือ สถานะความเป็นประเทศปลอดนิวเคลียร์ แต่จะไม่พูดคุยในบางเรื่อง เช่น การทำให้ยูเครนเป็นประเทศปลอดทหาร
ขณะที่ หน่วยงานควบคุมการทำงานของสื่อรัสเซีย รอสคอมนาดเซอร์ (Roskomnadzor) ได้ออกคำเตือนไปยังสื่อรัสเซียที่ทำการสัมภาษณ์ผู้นำยูเครนว่า สื่อสำนักนั้น ๆ ต้องไม่เผยแพร่บทสัมภาษณ์ และจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่า สื่อที่ทำการสัมภาษณ์ผู้นำยูเครนจะมีส่วนรับผิดชอบอะไรตรงไหน และเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการออกมา
ส่วนสื่อที่ทำการสัมภาษณ์ผู้นำยูเครนจะถูกจัดให้เป็น “สำนักงานตัวแทนของต่างชาติ” ในรัสเซีย ก่อนหน้านี้ ทางการรัสเซียเพิ่งออกกฎหมายเข้มงวดการทำงานของสื่อรัสเซียในการรายงานข่าวสงครามในยูเครน ถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาว่า เป็นการรายงานข่าวปลอมต้องมีบทลงโทษจำคุกนานถึง 15 ปี
ขณะที่ Meduza สื่ออิสระของรัสเซีย ได้ประกาศว่า เป็นผู้สัมภาษณ์ผู้นำยูเครน พร้อมกับโทรทัศน์ช่อง DozHD และหนังสือพิมพ์ Kommersant โดย Meduza และ DozHD ต่างถูกเจ้าหน้าที่รัสเซียสกัดการทำงาน ทำให้ DozHD ต้องสั่งพักการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวในสังกัดทั้งหมดไว้ก่อน
ผู้แทนการเจรจาของยูเครนคนหนึ่ง เผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียรอบต่อไปจะมีขึ้นในตุรกี เริ่มวันจันทร์นี้-วันพุธ (28 มีนาคม-30 มีนาคม) ตามวันเวลาท้องถิ่น แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่น ๆ แต่ยูเครน เคยพูดถึงการเจรจากับรัสเซียรอบก่อน ๆ ที่ผ่านมา ว่า เป็นการเจรจาที่ยากอย่างมาก
ส่วนตุรกี เป็นหนึ่งในประเทศที่เสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาขัดแย้งของยูเครนกับรัสเซีย เพิ่งจัดประชุมสามฝ่าย ระหว่างดมิโทร คูเลบา, เซอร์เก ลาฟรอฟ และเมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน, รัสเซีย และตุรกี ตามลำดับ เมื่อช่วงต้นเดือนนี้เอง แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนเป็นรูปธรรมเช่นเดียวกับการเจรจาโต๊ะเล็กของผู้แทนการเจรจาของยูเครนกับรัสเซีย
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น เตือนว่า การต่อความยาวสาวความยืดเกี่ยวกับสงครามในยูเครน อาจกระทบเป้าหมายหลักคือการเจรจาหยุดยิงในยูเครน และการถอนทหารรัสเซียได้ ถ้าเอาแต่พูดกันไปมา หรือ กระทำการใด ๆ ที่จะเป็นการทำให้ปัญหาขัดแย้งลุกลาม เป้าหมายเหล่านี้คงเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ซึ่งพยายามติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียตลอดวิกฤตการณ์สู้รบที่ผ่านมา ยังระบุด้วยว่า ในอีกสองวันข้างหน้า จะพูดคุยกับผู้นำรัสเซีย เพื่อจัดเตรียมการอพยพพลเรือนออกจากเมืองท่ามาริอูโปลของยูเครนที่ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวได้ออกมาชี้แจงกรณีประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ที่กล่าวโจมตีผู้นำรัสเซียอย่างดุเดือดระหว่างการเดินทางเยือนโปแลนด์ รวมทั้งที่ระบุว่า ผู้นำรัสเซียไม่สามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้แล้วนั้น ไม่ได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือเปลี่ยนตัวผู้นำรัสเซีย เพียงแต่ต้องการสื่อว่า ผู้นำรัสเซียจะไม่ได้รับการยินยอมให้ใช้อำนาจกับเพื่อนบ้านหรือภูมิภาคได้อีก
ส่วนรัสเซียตอบโต้ว่า ผู้นำสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะประชาชนชาวรัสเซียเป็นผู้เลือกผู้นำของตัวเอง
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังต้องออกมาแถลงยืนยันจุดยืนอีกครั้งว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีกลยุทธ์เรื่องการเปลี่ยนรัฐบาลในรัสเซีย ไม่ว่ากรณีรัสเซีย หรือที่ไหนก็ตาม ประชาชนของประเทศนั้นคือคนตัดสินใจ
ส่วนที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว มีความหมายชัด ๆ เลยว่า ประธานาธิบดีปูตินจะไม่สามารถได้อำนาจเพื่อก่อสงคราม หรือ เกี่ยวข้องกับการรุกรานยูเครน หรือ ที่อื่นใดได้อีก
ข้อมูล : TNN World
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี