“อช.หมู่เกาะสิมิลัน” กู้ซากอวนกว่า 2 ตัน คืนชีวิตแนวปะการัง

จากปัญหาซากอวนที่ถูกทิ้งในทะเลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ร่วมกับศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 (ภูเก็ต) ดำเนินภารกิจสำคัญในการกู้ซากอวนประมงที่หลุดลอยมาติดแนวปะการังบริเวณอ่าวงวงช้าง เกาะสิมิลัน ซึ่งมีน้ำหนักรวมกว่า 2 ตัน โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างนักดำน้ำของอุทยานฯ และผู้ประกอบการดำน้ำลึกในพื้นที่ ได้แก่ บริษัท ซีสตาร์ อันดามัน จำกัด (เรือ Koon) และ บริษัท กอ โอเชียนนิค จำกัด (เรืออิงอร 7)

นายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยว่า “ภารกิจดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและแนวปะการัง ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความเปราะบางสูงและมีคุณค่าทางชีวภาพอย่างยิ่ง ซากอวนประมงที่หลุดลอยในทะเลถือเป็น ‘ขยะทะเลประเภทอุปกรณ์ประมงสูญหาย’ (Ghost Fishing Gear) ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล เช่น ปะการัง เต่าทะเล และปลาทะเลหลากชนิด การดำเนินการกู้ซากอวนในครั้งนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการลดมลภาวะทางทะเล และช่วยให้ระบบนิเวศสามารถฟื้นตัวกลับสู่สมดุลตามธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน”

นายสุรศักดิ์ อนุสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวแสดงความขอบคุณต่อภาคเอกชนทั้งสองบริษัทที่ได้แสดงจิตสำนึกและความร่วมมืออันทรงคุณค่าในการสนับสนุนภารกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับภาครัฐ ซึ่งนับเป็นแบบอย่างของการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วม (Co-management Model) ที่สอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองทางทะเลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภารกิจในครั้งนี้ยังสะท้อนเจตนารมณ์ในการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติ และสอดคล้องกับภารกิจของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยให้คงความสมบูรณ์และยั่งยืน

การดำเนินงานในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับนโยบายของรัฐบาล โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงระดับท้องถิ่นและชุมชน เพื่อร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดและความงามของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทย อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรทางทะเลและการท่องเที่ยวในอนาคต

“ทุกแรงร่วมมือ คือพลังสำคัญในการรักษามรดกแห่งท้องทะเลไทย เพื่อส่งต่อความงดงามและความสมดุลของธรรมชาติสู่รุ่นต่อไป”