วิธีใช้ "กัญชา รักษาโรค" ให้ปลอดภัย ถูกกฎหมาย หลัง "ปลูกกัญชาเสรี" ได้ 9 มิ.ย. นี้ เพียงจดแจ้งผ่านแอป "ปลูกกัญ"
9 มิถุนายน 2565 ปลูกกัญชาเสรี โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เพียงแค่ จดแจ้ง "ปลูกกัญชาถูกกฎหมาย" ผ่านแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” และเว็บไซต์ http://plookganja.fda.moph.go.th ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดทำขึ้นเพื่อออกใบรับจดแจ้งปลูกกัญชา โดยกำหนดให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนเพื่อรักษาสุขภาพได้ 10 หรือ 20 ต้น
วันนี้ TrueID จึงจะมารวบรวมวิธีใช้กัญชา เพื่อรักษาสุขภาพ ให้ปลอดภัยและถูกกฎหมาย คนกลุ่มไหนควรหลีกเลี่ยงการใช้กัญชา เช็กได้ที่นี่เลย
รู้จัก "กัญชาทางการแพทย์"
กัญชามีสารประกอบเรียกว่า Cannabinoids จำนวนมาก โดยมีตัวหลัก คือ THC (Tetrahydrocannabidiol) และ CBD (Cannabidiol) ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ คือ
- ฤทธิ์ของ THC ต่อจิต ประสาท ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และ กระตุ้นให้อยากอาหาร
- ฤทธิ์ของ CBD มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ลดอาการชักเกร็ง และมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในหลอดทดลอง
กัญชา รักษาโรคอะไรได้บ้าง
โรค/ภาวะอาการ ที่สารกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษา โดยมีข้อมูลวิชาการสนับสนุนชัดเจน
- ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด
- โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา
- ภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ที่ใช้วิธีรักษาอื่นๆ แล้วไม่ได้ผล
- ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักน้อย
- การเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต
กลุ่มโรค/ภาวะ ที่น่าจะได้รับประโยชน์จากสารกัญชา แต่ยังต้องการงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
- โรคพาร์กินสัน
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคปลอกประสาทอักเสบอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง)
- โรคอื่นๆ ที่มีข้อมูลสนับสนุนทางวิชาการว่าน่าจะได้รับประโยชน์
กลุ่มที่ห้ามใช้กัญชา รักษาโรค
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีความเสี่ยงสูงในการทำร้ายตนเอง
- โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์สองขั้ว โรคจิตจากสารเสพติด โรคจิตเภท
- รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคไต ที่มีอาการรุนแรง
- มีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา
ปลูกกัญชา รักษาโรคเอง อันตรายไหม?
การใช้ยากัญชาที่ไม่ได้มีการวางแผนการรักษา จะไม่สามารถกำหนดความเข้มข้นของปริมาณสารกัญชา จึงอาจเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ มองเห็นสีผิดปกติ คลื่นไส้ ความจำลดลง ความดันโลหิตต่ำ ปากแห้ง เกิดความผิดปกติทางจิต เช่น ซึมเศร้า สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาตลอด ห้ามหยุดยา แล้วหันมาใช้ยากัญชาในการรักษา เพราะจะทำให้เกิดอันตรายจนเสียชีวิต
สารสกัดกัญชาหรือยากัญชา ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป แม้ผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษาด้วยยากัญชา ก็ไม่สามารถซื้อสารสกัดกัญชาใช้เอง แต่ต้องผ่านการวางแผนการรักษาจากแพทย์ นอกจากนี้บุคลากรทางการแพทย์ที่จะให้การรักษาด้วยสารสกัดกัญชา จะต้องผ่านการอบรม ก่อนจะจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาที่ได้รับจากสถานที่ผลิตมาตฐานที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง โดยพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่นก่อน เพราะยากัญชาไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการรักษาโรค
วิธีใช้กัญชารักษาโรคมีอะไรบ้าง
- รักษาโดยการหยดใต้ลิ้นซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับ เจริญอาหาร และฟื้นฟูกำลังผู้ป่วยเรื้อรัง
- รักษาโดยการนวดด้วยน้ำมันกัญชา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เช่น ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดกล้ามเนื้อตามร่างกาย รวมไปถึงแก้อาการปวดศีรษะเรื้อรัง และไมเกรน
รายชื่อโรงพยาบาลที่ใช้ "กัญชาทางการแพทย์"
สารสกัดน้ำมันกัญชาชนิด THC สูง จากองค์การเภสัชกรรม กระจายไปให้โรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) 12 แห่ง เขตสุขภาพละ 1 แห่ง ได้แก่
- รพ.ลำปาง
- รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก
- รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์
- รพ.สระบุรี
- รพ.ราชบุรี
- รพ.ระยอง
- รพ.ขอนแก่น
- รพ.อุดรธานี
- รพ.บุรีรัมย์
- รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
- รพ.สุราษฎร์ธานี
- รพ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ผู้ป่วยสามารถเข้าไปรับบริการได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 โดยกระจายน้ำมันกัญชาสูตรตำรับแพทย์แผนไทย ผ่านสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย 7 แห่ง ครอบคลุมทุกภาค ได้แก่
- ภาคเหนือ รพ.สมเด็จพระยุพราช เด่นชัย จ.แพร่ และรพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
- ภาคกลาง รพ.ดอนตูม จ.นครปฐม และรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร และรพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
- ภาคใต้ รพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
ข้อมูล โรงพยาบาลยันฮี , คณะกรรมการขับเคลื่อนประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง