วิสาหกิจชุมชนรับได้กัญชากลับเป็นยาเสพติด
หลังจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีมติเห็นชอบให้นำกัญชาและกัญชง กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 โดย (ร่าง) ประกาศดังกล่าว จะเพิ่มกัญชาและกัญชงในส่วนช่อดอกที่มีสารสกัด THC มากกว่าร้อยละ 0.2 เป็นยาเสพติด ส่งผลให้กลุ่มผู้ปลูกกัญชาต้องเริ่มปรับตัว
อย่างที่วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกพืชสมุนไพรทางการแพทย์บ้านหนองมะกอก อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ปัจจุบันยุติการปลูกกัญชา ปล่อยโรงเรือนและโรงอบทิ้งร้าง ซึ่งในส่วนของโรงเรือนและโรงอบมีมูลค่ามากว่า 1 ล้านบาท ส่วนต้นกัญชาก็ทยอยจำหน่ายออกไปเหลือไว้เพียงไม่กี่ต้น
นายรพีรัฐ ถิระการ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า ที่นี่จะปลูกกัญชาทางการแพทย์ เก็บช่อดอกส่งให้กับทางโรงพยาบาล ส่วนอื่นๆของต้นกัญชาจะมีการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ยาหม่อง ลูกประคบ ส่งขายตามโรงพยาบาล ร้านนวดแผนไทยต่างๆ
ที่ผ่านมาสมาชิกกว่า 70 คนจะมีรายได้ประจำทุกเดือน รวมกับเบี้ยปันผลรายปีอีกร้อยละ 8 แต่พอมีการเสนอให้กัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด ทางวิสาหกิจชุมชนเกือบทุกแห่งต่างยุติการปลูกกัญชากันไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจน ส่วนตัวยอมรับได้หากจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพื่อจะช่วยควบคุมการใช้โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่อยากให้อนุญาตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้ดำเนินกิจการต่อไป หรือหากจะต้องยุติ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาวิสาหกิจทุกกลุ่มที่ลงทุนกันไปอย่างเหมาะสม
ด้าน นายวันชัย พลซา ผู้ประกอบการร้านขายกัญชา ย่านถนนคนเดินเชียงคาน จังหวัดเลย ไม่เห็นด้วยกับการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ชี้การนำกัญชาซึ่งเคยเป็นสิ่งผิดกฎหมายขึ้นมาไว้บนดิน มีการเก็บภาษีที่ถูกต้อง มีการออกกฎหมายควบคุมการใช้ ป้องกันไม่ให้เด็กเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องน่าจะเหมาะสมกว่า ในส่วนของผู้ประกอบการร้านขายกัญชาต่างก็พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอย่างเข้มเคร่งครัด.
ที่มาภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.อุทัยธานี