รีเซต

คุมสารสกัดกัญชา ผลิต จำหน่าย นำเข้า-ส่งออกต้องขออนุญาต

คุมสารสกัดกัญชา ผลิต จำหน่าย นำเข้า-ส่งออกต้องขออนุญาต
TNN ช่อง16
9 ตุลาคม 2567 ( 15:12 )
34

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 “สารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง” เมื่อวันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2567  ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป 


พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า  ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นการออกกฎหมายลำดับรองที่ออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาต คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต และการต่อใบอนุญาต รวมถึงค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาตให้ผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่เป็นสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม การวิเคราะห์หรือศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 


เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีผลบังคับใช้แล้ว การผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะสารสกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชง โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ จะมีโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ทั้งนี้ หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า หรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี จะมีโทษหนักขึ้นไปอีก คือ จำคุก 1-15 ปี และปรับ 100,000 – 1,500,00 บาท


ในเรื่องความกังวลของต่างชาติเกี่ยวกับกัญชาจากประเทศไทยนั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2567 นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ได้หารือเรื่องการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งทางการอังกฤษได้หยิบยกประเด็นสถิติในปี พ.ศ. 2567 ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนกัญชาจากประเทศไทยไปยังสหราชอาณาจักรกว่า 200 อันก่อให้ความกังวลถึงความเป็นไปได้ของกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนส่งนี้ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย หรือ AOT เข้าร่วมหารือด้วย  ซึ่งทาง สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติสหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) จะมีการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวร่วมกัน และสนับสนุนการจัดอบรมการตรวจวิเคราะห์ยาเสพติดให้แก่บุคลากรของการท่าอากาศยาน (AOT) เพื่อเน้นการตรวจสอบผู้โดยสารขาออกและสัมภาระในด้าน การตรวจจับยาเสพติดที่ผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง