GPSC บล.เมย์แบงก์ ชูหุ้นเด่นในกลุ่ม คาดกำไรหลักปีงบ 68 โต 37%
#ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) สแกนหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 53 บาทเป็น 49 บาท เนื่องจากปรับประมาณการส่วนแบ่งกำไรที่ลดลง อย่างไรก็ตาม GPSC ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มของเรา เนื่องจากฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่ากำไรปี 68 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 37% YoY และมองว่า Valuation ของ GPSC น่าสนใจที่ P/E ปี 68 ที่ 19.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (ปี 60-64 ซึ่งเป็น 5 ปีก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครน) ปัจจัยกระตุ้นในระยะใกล้คือผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่ดีขึ้น และโครงการ CFXD จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เต็มที่
โอกาสเติบโตหลากหลาย GPSC วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RE) ทั้งจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าแบบไม่มี PDP โดยแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าแบบไม่มี PDP รวมถึงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงผ่านการเข้าถึงบุคคลที่สาม (TPA) ฝ่ายบริหารมองว่า TPA เป็นสิ่งสำคัญในการขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเมื่อรัฐบาลปลดล็อกกฎระเบียบ เราเชื่อว่า GPSC มีความพร้อมทั้งด้านการเงินและการดำเนินงานในการลงทุนในกำลังการผลิตพลังงานทดแทนแห่งใหม่ที่สำคัญในประเทศไทย
ปรับลดกำไรจากรายได้ส่วนแบ่งที่ต่ำกว่าคาด ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปีงบ 67-69 ลง 22%/29%/27% ตามลำดับ โดยเได้ปรับลดประมาณการรายได้จากส่วนแบ่งกำไรสำหรับปีงบ 67-69 ลง 76%/43%/38% ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้จากเงินลงทุนใน XPCL ที่ต่ำกว่าคาด
โดยปรับลดส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL สำหรับปี 67-69 ลง 74%/18%/15% เนื่องจากผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปี 67 ต่ำกว่าคาดจากการหยุดเดินเครื่องนอกแผนเป็นเวลา 17 วัน อย่างไรก็ตามมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ครั้งเดียว และคาดว่าส่วนแบ่งกำไรใน XPCL จะกลับมาปกติในปี 68-69
ทั้งนี้ ปรับลดประมาณการส่วนแบ่งกำไรใน XPCL สำหรับปี 68-69 ด้วยสมมติฐานที่ระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ ยังปรับลดส่วนแบ่งกำไรจาก CFXD สำหรับปี 67-69 โดยอิงจากการรับรู้รายได้แบบเส้นตรงหลังจากนำ IFRS-16 มาใช้ และยังเลื่อน COD ตามกำหนดการของโครงการ ERU จากต้นปีงบ 68 ไปเป็นไตรมาส 4/68
คาดกำไรหลักปีงบ 68 เติบโต 37% แม้ว่ากำไรใน 9 เดือนแรกของปี 67 จะน่าผิดหวัง แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าการหยุดเดินเครื่องของ XPCL เป็นเหตุการณ์ครั้งเดียว และคาดการณ์กำไรปีงบ 68 ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% YoY โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ส่วนแบ่งกำไรของ XPCL ฟื้นตัว 280% YoY 2) การเริ่มผลิตเต็มรูปแบบของโครงการ CFXD ที่มีกำลังการผลิต 149 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรของ CFXD ในปีงบ 68 ที่ 310 ล้านบาท จากขาดทุนในปีงบ 67