กรุงศรี ให้น้ำหนัก Overweight 10 หุ้น Deep Value

#ทันหุ้น-บล.กรุงศรี แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ โดยประเมินดัชนีปี 2568 อยู่ที่ระดับ 1,418 จุด บนสมมติฐานกำไรตลาด (EPS) ปี 2568 ที่ 90 บาท Equity Risk Premium 4.16% จะได้ Target PER 15.75 เท่า ยังคงแนะนำให้ Overweight หุ้น 10 Deep Value มีหุ้นเด่น คือ AOT , BDMS, BH, BBL, CPALL, GPSC, HMPRO, KBANK, MINT, SCGP ผสาน หุ้นในธีมดอกเบี้ยขาลงหนุน อาทิ AP, ADVANC, MTC
ฝ่ายวิจัยมอง Neutral ถึง Slightly Dovish ต่อผลการประชุมเฟดที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบ 4.25-4.5% และรายงาน Dot Plot ส่วนการปรับเปลี่ยนมุมมองของคณะกรรมการนโยบายการเงินในทิศทางเดียวกับที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาด ได้แก่ 1) ปรับลดมุมมองการเติบโต GDP สหรัฐฯ ปี 2568-2570 ลงจากเดิมราว -0.4% , -0.2%, -0.1%เหลือคาดที่ 1.7% 1.8% 1.8% 2) ปรับอัตราเงินเฟ้อ Core PCE ขึ้น จากเดิม 2.5% เป็น 2.7%
และ 3) ยังคงมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม กล่าวคือ ปี 2568 จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งๆละ 25 bps (เท่ากับ Dot plot รอบก่อน) ดอกเบี้ยสิ้นปีจะอยู่ที่ 3.9% เช่นเดียวกับปี 2569 ลดดอกเบี้ย2 ครั้งๆ ละ 25 bps ดอกเบี้ยสิ้นปีจะอยู่ที่ 3.4% ส่วนปี 2570 ลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง 25 bps ดอกเบี้ยสิ้นปีจะอยู่ที่ 3.1%
Key สำคัญที่ Slightly Surprise คือเฟด ประกาศชะลอมาตรการการลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening, QT) ลง โดยจะลดวงเงินที่อนุญาตให้พันธบัตรรัฐบาลหมดอายุและไม่ต่ออายุจาก 25,000 ล้านเหรียญต่อเดือนเหลือ 5,000 ล้านเหรียญต่อเดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 2568 เป็นต้นไป ส่วนวงเงินพันธบัตรจำนอง (MBS) ยังคงเดิมที่ 35,000 ล้านเหรียญต่อเดือนส่งผลให้ภาพรวมระดับการทำ QT ต่อเดือนลดลงจากระดับ 60,000 ล้านเหรียญต่อเดือน เหลือ 40,000 ล้านเหรียญต่อเดือน โดยเฟด ระบุถึงสาเหตุในการปรับลดขนาด QT ครั้งนี้เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาดเงินที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้การบริหารจัดการสภาพคล่องในระบบเป็นไปอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้ประธานเฟด ระบุว่าการปรับลด QT นี้จะช่วยให้เฟด สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องและนำไปสู่การยุติ QT อย่างราบรื่นในอนาคต KSS มองเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟด กำลังเดินหน้าเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของกระบวนการ QT ในระยะต่อไป ขณะที่อีกด้านบ่งชี้ถึงภาพน้ำหนักที่เฟดให้ต่อเศรษฐกิจ