MBKธุรกิจรร.ดีปีนี้รายได้โต7% ศูนย์การค้าคึกคักรับอีซี่-อีรีซีฟอาทร วนาสันตกุล
#MBK #ทันหุ้น– MBK ตั้งเป้ารายได้กลุ่มธุรกิจโรงแรมเติบโต 6-7% YoY หนุนจากการปรับปรุงโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซสแล้วเสร็จ พร้อมเดินหน้าทยอยปรับปรุงโรงแรมในจังหวัดกระบี่ 2 แห่งต่อเนื่อง มั่นใจไม่กระทบอัตราการเข้าพักโดยรวม ด้านธุรกิจศูนย์การค้าปริมาณทราฟฟิกเติบโตรับโครงการลดหย่อนภาษีอิเล็กทรอนิกส์ Easy E-Receipt ปลื้มยอดขายต่อใบเสร็จร้านค้าพันธมิตรเติบโต
นางอาทร วนาสันตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด ในเครือบริษัทเอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจโรงแรมประมาณการรายได้รวมปี 2568 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6%-7%เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่ผ่านมา (YoY)โดยประมาณการอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ทั้งปี 2568 ไว้ประมาณ 75%-80% ในส่วนของ รายได้ค่าห้องพักต่อคืน (Average Daily Rate : ADR) ตั้งไว้ที่ประมาณ 3,700 – 3,800 บาทต่อคืน และ รายได้ต่อห้องพักที่พร้อมให้บริการ (Revenue Per Available Room : RevPAR) ตั้งไว้ที่ประมาณ 2,800 – 2,900 บาทต่อคืน
*ทำเลดี-อัตราเข้าพัก90%
สำหรับผลการดำเนินงานของโรงแรมในเครือ อาทิ โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส หลังปรับปรุงห้องพักแล้วเสร็จ และเปิดร้านอาหารฟิวชั่น MIX BEEF CLUB & RESTAURANT และร้านขนมฝรั่งเศส SARUDA PASTRY BKK คาดว่าปี 2568 จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยดีเกือบ 90% เนื่องจากเป็นโรงแรมที่อยู่ติดกับศูนย์การค้าอ็ม บี เคเซ็นเตอร์ และเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร
พร้อมกันนี้ กลุ่มบริษัทมีแผนปรับปรุงโรงแรม 2 แห่งประกอบด้วย โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ทช่วงราวไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นช่วงโลซีซัน (Low Season) ซึ่งมีอัตราการเข้าพักในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 60% อีกทั้งแผนการปรับปรุงจะทยอยดำเนินการเป็นเฟส เฟสละประมาณ 25% ของอัตราห้องพักทั้งหมด ซึ่งไม่กระทบต่อการให้บริการโดยรวม
เช่นเดียวกับที่ โรงแรมลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งมีอัตราการเข้าพักในช่วง Low Season ประมาณ 55% แต่จำนวนห้องที่จะทำการปรับปรุงในปี 2568 อยู่ที่ 24 ห้อง หรือคิดเป็น ประมาณ 42%ของห้องพักทั้งโรงแรม ดังนั้น อัตราการเข้าพักของลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปาจะไม่ได้รับการกระทบเนื่องจากการปรับปรุงห้องพักเช่นกัน
ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจโรงแรมยังพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการภาครัฐ อาทิ ไทยเที่ยวด้วยกัน หรือการที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้หน่วยงาน องค์กรต่างๆ จัดกิจกรรม สัมมนา ฯลฯ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวช่วง Low Seasonซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจโรงแรม และบริการของไทย
*ดีดรับมาตรการภาษี
ด้านนายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า และ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด MBKกล่าวว่า จากการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายผ่านมาตรการภาษีอีเล็กทรอนิก หรือ อีซี่-อีรีซีฟ (Easy e-Receipt)ร้านค้าพันธมิตรในทุกศูนย์การค้า โดยเฉพาะศูนย์การค้าหลักอย่างเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุมทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ปกครองที่มารอบุตรหลานเรียนพิเศษ กลุ่มพนักงานวัยทำงานที่เข้ามาจับจ่ายสินค้า ฯลฯ ร้านมีปริมาณทราฟฟิคเพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม9 ซึ่งมุ่งตอบสนองกำลังซื้อโดยรอบ ทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มวัยทำงาน รวมถึงนักท่องเที่ยว ร้านค้าในพื้นที่ได้เข้าร่วมโครงการลดหย่อนภาษีอีเล็กทรอนิกกันเกือบทุกร้านค้า และมีปริมาณทราฟฟิคเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงวันธรรมดา ขณะที่ศูนย์การค้าพาราได้ซ์ พาร์คซึ่งปรับเป็นศูนย์การค้าที่มีศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรก็มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นลูกค้าในกลุ่มที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ
“ภาพรวมการเดินทางท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ภาครัฐมีนโยบายต่างๆ เข้ามากระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างต่อเนื่อง หนุนยอดขายต่อใบเสร็จของผู้เช่าดีมาก ในฐานะผู้บริหารจัดการพื้นที่ก็ต้องคิด - จัดกิจกรรมต่างๆ ดึงดูดทราฟฟิคเป้าหมายของแต่ละศูนย์การค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าจึงมีการจัดกิจกรรมในทุกเทศกาล ผู้เช่าเองก็ปรับตัวตอบรับมาตรการใหม่ๆ โดยทางกลุ่มบริษัทก็จะให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวกให้ในกรณีที่ผู้เช่าแต่ละรายต้องการ”