PTTEP โบรกมองไปข้างหน้า คาดการณ์แนวโน้มกำไรปี 68
#PTTEP #ทันหุ้น – ภายหลังจาก PTTEP แจ้งผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 78,824 ล้านบาทเป็นไปตามโบรกเกอร์คาดการณ์ การซื้อขายหุ้น PTTEP ครึ่งวันเช้าวันที่ 31 ม.ค.ราคาอยู่ที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท (+2.41%) มูลค่าการซื้อขาย 1,133 ล้านบาท โบรกเกอร์หลายรายออกบทวิเคราะห์ในวันที่ 31 ม.ค. คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2568 ในช่วง 5.7-7.6 หมื่นล้านบาท ให้ราคาเหมาะสมของหุ้น PTTEP ระหว่าง 134-182 บาท โดยมีค่ากลาง (median) ที่ 151 บาท โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ” มีจำนวน 11 ราย และโบรกเกอร์ที่แนะนำ “ถือ” มีจำนวน 8 ราย
บล.ลิเบอเรเตอร์ : ซื้อขายตามราคาน้ำมัน
"กำไรออกมาตามคาด แต่แนวโน้มการดำเนินงานไตรมาส 1/68 อ่อนลงตามปริมาณขายที่ลดลง และราคาขายจะลดลงตามราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ความน่าสนใจยิ่งดูลดลงไป แต่การดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2567ที่ประกาศจ่ายเงินปันผล 5.125 บาทต่อหุ้นคิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 4.1% ยังน่าสนใจถือรับเงินปันผลได้ กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนำให้ซื้อขายเล่นรอบตามแนวโน้มราคาน้ำมัน "
.
บล.กรุงศรี : แนวโน้มกำไร และปันผล ยังอยู่ในระดับสูง
เราคงคำแนะนำ Trading Buy ต่อ PTTEP ที่ราคาเหมาะสม 140 บาท คาดครึ่งปีแรก 2568 มีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ h-h ที่ supply ตึงตัวขึ้น เพราะ demand จีนฟื้น ในขณะที่ supply U.S. และ OPEC+ ออกมาไม่เร็ว และมีคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากกำไรไตรมาส 4/67 ที่ออกมาอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงเราและตลาดคาด และปันผล 5.125 บาท/หุ้น คิดเป็น yield สูงราว 4% ขึ้น XD 25/2/2568รวมถึงแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2/68 ทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
.
บล.กสิกรไทย : แนวโน้มไตรมาส 1/2568 ยังคงอยู่ที่ระดับเดิม
บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/2568 ของ PTTEP จะทรงตัวหรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น 4% ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยผลกระทบของปริมาณการขายที่ลดลง 5% ซึ่งเป็นผลจากแผนปิดซ่อมบำรุงโครงการ G2 โดยในเชิง QTD ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้น 9% QoQ ขณะที่ผู้บริหารคาดว่าราคาขายก๊าซจะเพิ่มขึ้น 2% เป็น 6 ดอลลาร์ฯ/mmbtu และต้นทุนการผลิตต่อหน่วยจะแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 29-30 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล
เงินปันผลครึ่งหลังของปี 2567 อยู่ที่ 5.125 บาท/หุ้น คิดเป็นอัดราตอบแทนที่ 4.1% หากรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 4.50บาท/หุ้น เงินปันผลปี 2567 จะอยู่ที่ 9.625 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1.3% YoY และคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลทรงตัวที่ 49%
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 151.0บาท ด้วย TSR 25% โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ ราคาน้ำมันที่อาจลดลงจากความต้องการใช้น้ำมันดิบของโรงกลั่นที่ลดลง
.
บล.ดีบีเอสฯ : คาดราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 2568 ลดลง y/y ทั้งนี้ DBS GroupResearch คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ปี 2568 ไว้ที่ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (เทียบกับ 75 เหรียญสหรัฐ ในปี 2567) เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบที่อ่อนแอกว่าคาดในปีนี้ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม
คาดกำไรหลัก (core profit) งวดไตรมาส 1/68 จะอ่อนตัวลง q/qเนื่องจากปิดซ่อมบำรุงแหล่งบงกชในอ่าวไทย บริษัทคาดปริมาณการผลิตรวมไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 475-480 kboed (เทียบกับ 500-510 kboed สำหรับปี 2568) และราคาขายก๊าซเฉลี่ยที่ประมาณ 6.0 เหรียญสหรัฐต่อ mmbbtu ในไตรมาส 1/68 (เทียบกับประมาณ 5.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ mmbtu สำหรับปี 2568)
บล.ดีบีเอสฯคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 169 บาท (DCF) แม้ว่าราคาน้ำมันอ่อนตัวลง แต่เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP เนื่องจากมีความเสี่ยงจากแนวทางลดราคาพลังงานในประเทศของรัฐบาลจำกัด ทั้งจากการ Single Pooled Gas Price, การตรึงราคาขายปลีกน้ำมัน (ทั้งดีเซลและเบนซิน) และการลดค่าไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ธุรกิจของ PTTEP ยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของปริมาณขายและราคาขายก๊าซที่ทรงตัว
.
บล.อินโนเวสท์เอกซ์ : กำไรไตรมาส 4/67 ตามคาด โดยปริมาณขายเพิ่มขึ้น QoQ
บล.อินโนเวสท์เอกซ์คาดว่ากำไรจะอ่อนแอลง YoY ในปี 2568 เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง แต่ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ PTTEP เมื่อพิจารณาจากงบดุลที่แข็งแกร่ง (อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน <0.3 เท่า) และ upside ที่น่าสนใจต่อราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 164 บาท/หุ้นซึ่งอิงกับราคาน้ำมันเบรนท์ในระยะยาวที่ US$65/bbl ตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป
.
บล.ดาโอ : ปริมาณขายไตรมาส 4/67 ทำสถิติใหม่; กำไรไตรมาส 1/68 แนวโน้มทรงตัว
บล.ดาโอคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 160.00 บาท อิงวิธี DCF (WACC 6.7%, TG 0%) และราคาน้ำมันดิบระยะยาวที่ USD65.0/bbI
บล.ดาโอเชื่อว่าผลประกอบการจะทรงตัว QoQ ในไตรมาส 1/68 ซึ่งน่าจะเห็นราคาขายเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติ (gas ASP) ที่สูงขึ้นช่วยชดเชยปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง QoQ ได้
บล.ดาโอปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ขึ้น 4% เป็น 7.15 หมื่นล้านบาท หลักๆเพื่อสะท้อนสมมติฐาน gas ASP ที่สูงขึ้นและ unit cost ที่ต่ำลง ทั้งนี้ เราเชื่อว่ากำไรจะทรงตัวสูงในปี 2569 แม้จะลดลง 12% YoY ตาม blended ASP ที่ลดลงจาก gas ASP และ liquid ASP
ราคาหุ้นปรับตัวลง 12%และ underperform SET 14% ในช่วง 6เดือนที่ผ่านมา สอดคล้องกับระดับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงตามความกังวลต่อภาพรวมอุปสงค์การใช้น้ำมันโลก ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ที่น่าดึงดูดที่ 0.87x (ประมาณ -1.65SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และอัตราตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 7.5%-7.7% ในปี 2567-68
.
บล.บัวหลวง : แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 1/68 เติบโต QoQ หนุนโดยราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น
แนวโน้มปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 500 -510 KBOED ในปีนี้ (จาก 489 KBOED) แต่คาดราคาขายก๊าซจะลดลงเป็น USS5.8/MMBTU (จาก US$5.9/MMBTU)
โครงการโมซัมบิค ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอ TOTAL (operator) ประกาศ FID (Final Investment Decision) คาดเริ่มผลิตก๊าซในไตรมาส 4/71
แนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งน่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นได้ และราคาน้ำมันดิบอาจมี upside จากความเสี่ยงด้านอุปทานตึงตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบอาจมี downside จากนโยบายการเพิ่มการผลิตของสหรัฐฯ
.
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ : กำไรปกติไตรมาส 4/67 แข็งแกร่งเป็นไปตามคาด
กำไรปกติไตรมาส 4/67 แข็งแกร่งเป็นไปตามคาด แม้ราคาดูไบลดลง แต่ได้ตัวช่วยจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาก ต้นทุนผลิตลดลง และส่วนแบ่งกำไรจาก Seagreen เพิ่มขึ้น
กำไรปกติทั้งปีลดลง YoY แต่กำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ราคาขายเฉลี่ยลดลง แต่ถูกทดแทนด้วยปริมาณขาย และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราภาษีลดลง
แนวโน้มไตรมาส 1/68 ปริมาณขายลดลง แต่คาดถูกชดเชยด้วยราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและต้นทุนผลิตลดลง
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มองว่าฐานกำไรของ PTTEP มีความมั่นคงสูง การประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นจะเป็นประเด็นหนุนหุ้น
.
บล.เอเซียพลัส : กำไรไตรมาส 4/67 ตามคาด..ปันผลครึ่งปีหลัง 2567 สูง 5.125 บาท Yield 4.1%
Outlook ไตรมาส 1/68 คาดกำไรปกติมีโอกาสลดลง QoQ กดดันจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่คาดจะลดลง ถึงแม้แนวโน้มราคาขายปิโตรเลียมจะเพิ่มขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยจะลดลง แต่คาดจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี เบื้องต้นคงประมาณการปี 2568 มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 68 อยู่ที่ 182 บาทต่อหุ้น ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบตั้งแต่ปี 68 ที่ 80 เหรียญฯ ภาพใหญ่ยังเป็นหุ้นที่มีความแข็งแรงของกำไรรายปี โดยมีปริมาณขายเป็นปัจจัยหนุนหลัก อีกทั้งมีกระแสเงินสด และฐานะการเงินแข็งแรง แต่ภาพในระยะสั้นอาจมีความผันผวนตามราคาน้ำมัน แต่คาดว่าน่าจะมี Downside ที่จำกัดมากขึ้นแล้ว Theme การลงทุนในช่วงนี้ชูประเด็นปันผลเด่น โดยครึ่งปีหลัง 2567 ประกาศจ่ายสูงถึง 5.125 บาทต่อหุ้น คิดเป็น DIV Yield ครึ่งปี 4.1% (ทั้งปี 2567 จ่าย 9.625 บาทต่อหุ้น)
.
บล.เคจีไอ : เรายังคงคำแนะนำถือ PTTEP และคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2568 ที่ 140.00 บาทโดยใช้ WACC ที่ 8.8% และ terminal growth ที่ 1.0% แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าในช่วงฤดูปันผล หุ้น PTTEP จะดึงดูดความสนใขของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นเงินปันผล เพราะอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อิงตามราคาหุ้นในปัจจุบันแข็งแกร่งถึง 7.7% ซึ่งอัตราผลตอบแทนนี้ ประกอบกับผลประกอบการที่ทำสถิติสูงสุดใหม่และกระแสเงินสดที่มั่นคง ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความน่าสนใจของ PTTEP ในฐานะหุ้นที่สร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากเงินปันผล
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและก๊าซ