รีเซต

ขาย "เพชร" ด้วยสตอรี "ยูบิลลี่" ปรับตัวสู่ยุคใหม่ ยึดดาต้า ตอบโจทย์คนซื้อจิวเวอรีให้รางวัลตัวเอง

ขาย "เพชร" ด้วยสตอรี  "ยูบิลลี่" ปรับตัวสู่ยุคใหม่ ยึดดาต้า ตอบโจทย์คนซื้อจิวเวอรีให้รางวัลตัวเอง
TNN ช่อง16
15 ธันวาคม 2568 ( 16:01 )
19

ขาย "เพชร" ด้วยสตอรี  "ยูบิลลี่" ปรับตัวสู่ยุคใหม่ ยึดดาต้า ตอบโจทย์ลูกค้า คนซื้อมองหาจิวเวอรีเพื่อให้รางวัลตัวเองได้ทุกวันไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ 


คุณอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ "Jubilee" ได้เปิดเผยถึงทิศทางการทำธุรกิจในปี 2569 บนเวทีเสวนาหัวข้อ “Women of Confidence” ภายในงาน  “Thailand Confidence 2026 ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่อนาคต” จัดโดย TNN 16 โดยย้ำถึงการปรับตัวของแบรนด์ในกลุ่มเครื่องเพชรและเครื่องประดับหรือจิวเวอรีพรีเมี่ยม ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคนี้


คุณอัญรัตน์กล่าวว่า ทิศทางของสินค้าพรีเมี่ยม โดยเฉพาะตลาดจิวเวอรีและเครื่องเพชรในปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ จากอดีตที่ผู้บริโภคหรือลูกค้ามักรอคอยโอกาสพิเศษ เช่น การแต่งงาน วันครบรอบ หรือเหตุการณ์สำคัญในชีวิต แต่ในวันนี้ไม่จำเป็นต้องรอเวลาอีกต่อไป เครื่องเพชรและจิวเวลรีสามารถเป็นของขวัญให้กับตัวเองได้ทุกวัน เพราะคนสามารถซื้อเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และเป็นรางวัลให้กับตัวเองได้ในทุกเมื่อ ทุกช่วงเวลา ส่งผลให้แบรนด์ต้องทำความเข้าใจผู้บริโภคในมิติใหม่ และออกแบบการสื่อสารให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป


ในด้านการตลาดและการสื่อสาร คุณอัญรัตน์ระบุว่า การสื่อสารของ Jubilee ได้เปลี่ยนจากการสื่อสารแบบกว้าง ไปสู่การใช้โซเชียลมีเดียควบคู่กับการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงมากขึ้น โดยย้ำว่า DATA (เดต้า) คือ หัวใจสำคัญของการบริหารองค์กร ผู้บริหารไม่สามารถมองตัวเองเป็นตัวแทนของผู้บริโภคทั้งหมดได้อีกต่อไป ความเข้าใจลูกค้าที่แท้จริงต้องมาจากฐานข้อมูลเชิงลึก ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำทั้งในเชิงสินค้า การออกแบบ และประสบการณ์ที่มอบให้ลูกค้า


สำหรับการปรับตัวด้านผลิตภัณฑ์ Jubilee ยังคงยึดมั่นในคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก โดยเฉพาะจุดที่สร้างความแตกต่างได้ คือ กระบวนการเจียรไนเพชร  เป็นรากฐานสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นเวิลด์คลาส เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับแบรนด์เนมระดับโลกได้อย่างมั่นใจ ขณะเดียวกัน การออกแบบก็ต้องตอบโจทย์การใช้งานจริง สวมใส่สบาย เป็นดีเอ็นเอของแบรนด์ที่ทำให้จิวเวอรีสามารถใส่ได้ทุกวัน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้สวมใส่


พร้อมกันนี้ ทางแบรนด์ก็ไม่หยุดยั้งพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ในอนาคต โดยระบุว่าปีหน้าจะมีการนำเสนอเพชรรูปแบบพิเศษ เช่น เพชรหนึ่งร้อยเหลี่ยม  ซึ่งเป็นผลจากการร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ สะท้อนถึงการค้นหาและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดที่ว่าคุณภาพคือหัวใจสำคัญของแบรนด์



ในมุมของสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริหาร Jubilee มองว่าองค์กรไม่สามารถขายสินค้าเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องมอบ “ประสบการณ์” ที่สร้างความสุข รอยยิ้ม และความรู้สึกเฉลิมฉลองให้กับลูกค้า ความเป็นแบรนด์ของ Jubilee จึงถูกนิยามว่าเป็นความอิ่มเอมใจและความสุข ซึ่งลูกค้าคาดหวังควบคู่ไปกับคุณภาพสินค้า การสร้างโมเมนต์ที่หลากหลาย ผ่านการคอลแลปกับแบรนด์ต่าง ๆ ในหลายอุตสาหกรรม จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าไปสู่หลายกลุ่ม


คุณอัญรัตน์ยังกล่าวถึงการใช้เดต้าและเทคโนโลยีในการทำความเข้าใจผู้บริโภคในเชิงลึกมากขึ้น โดยยกตัวอย่างว่า การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามอายุแบบเดิมอาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงอีกต่อไป เช่น คนอายุ 60 ปีในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องถูกมองว่าเป็นผู้สูงวัย เนื่องจากอายุขัยเฉลี่ยยาวขึ้น ไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อก็เปลี่ยนไป การวางกลยุทธ์จึงต้องอิงข้อมูลจริงมากกว่านิยามแบบเดิม


ในส่วนของการปรับตัวเชิงองค์กร Jubilee ได้นำเดต้ามาใช้ตั้งแต่ระบบหลังบ้าน เพื่อวางแผนกลยุทธ์ ทำความเข้าใจลูกค้า ออกแบบสินค้า และส่งต่อประสบการณ์ไปถึงหน้าร้าน โดยเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าสัมผัส แม้สิ่งนั้นจะเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก จากอดีตที่การขายมักเน้นเพียงรายละเอียดสินค้า เช่น น้ำหนักเพชร หรือคุณลักษณะทางกายภาพ ปัจจุบันต้องเล่า “สตอรี่” หรือเรื่องราวด้วยว่าสินค้าที่วางขายแต่ละชิ้นนั้นมีความหมายอย่างไร และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตของผู้สวมใส่ได้อย่างไร


รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ผ่านแพลตฟอร์ม “Jubilee iMoment” ซึ่งช่วยบันทึกวิดีโอ ภาพถ่าย และเรื่องราวของจิวเวอรีแต่ละชิ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนใจ ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงการให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น รูปร่างขนาดของนิ้ว หรือสไตล์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีทางเลือกมากขึ้น และคาดหวังประสบการณ์ที่ตรงกับตัวเองมากขึ้น


คุณอัญรัตน์ย้ำว่า ความเชื่อมั่นในแบรนด์เกิดจากการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง และการเปิดกว้างต่อการคอลแลปกับทุกกลุ่มธุรกิจ โดยหนึ่งในบทเรียนสำคัญของ Jubilee คือช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่สุด เนื่องจากต้องปิดร้านทุกสาขา ทำให้แบรนด์ที่ไม่เคยทำออนไลน์มาก่อน ต้องปรับตัวและทดลองช่องทางใหม่เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม การปรับตัวดังกล่าวกลับประสบความสำเร็จ และกลายเป็นองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนถึงศักยภาพขององค์กรในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่อนาคตอย่างแท้จริง



ในอีกมิติหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ คุณอัญรัตน์เน้นย้ำว่า การพัฒนาสินค้าและการเติบโตของแบรนด์ต้องเดินควบคู่กับการคืนกำไรสู่สังคม โดย Jubilee เป็นแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานและมุ่งสู่การเป็นองค์กรอายุเกือบหนึ่งร้อยปี จึงยึดหลักการทำเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับมูลนิธิต่าง ๆ อาทิ มูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณค่าให้กับสังคมไทยในระยะยาว


ขณะเดียวกัน การสร้างความยั่งยืนยังเริ่มต้นจากภายในองค์กร Jubilee มีพนักงานกว่า 400 คน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของแบรนด์ คุณอัญรัตน์ระบุว่า บุคลากร โดยเฉพาะพนักงานขาย คือเสน่ห์ของอาชีพและธุรกิจจิวเวลรี เนื่องจากเป็นงานที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่น ประสบการณ์ และความสัมพันธ์กับลูกค้า ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งสะสมความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้บุคลากรสามารถเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง


ในปีนี้ Jubilee ได้ลงทุนด้านการฝึกอบรมบุคลากรอย่างเข้มข้น เพื่อยกระดับทั้งความรู้ด้านสินค้า การบริการ และความเข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ เป้าหมายคือการส่งมอบคุณภาพการบริการในระดับสูงสุด พร้อมกับทำให้พนักงานมีความรู้เท่าทันยุคสมัย และสามารถปรับตัวกับเทคโนโลยีและรูปแบบการสื่อสารใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ การพัฒนาทักษะอย่างสม่ำเสมอนี้ไม่เพียงช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับพนักงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นคงของครอบครัวพนักงานด้วย ทำให้บุคลากรสามารถเป็นเสาหลักของครอบครัว และมีอาชีพที่ยั่งยืนในระยะยาว


คุณอัญรัตน์สรุปว่า การขับเคลื่อน Jubilee สู่อนาคต ไม่ได้วัดจากยอดขายหรือการเติบโตของธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องวัดจากคุณค่าที่แบรนด์สร้างให้กับลูกค้า สังคม และบุคลากรภายในองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้คือรากฐานของความเชื่อมั่น ที่จะทำให้แบรนด์สามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างมั่นคงในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง