ผู้ปกครองร้องอีก! ครู "สารสาสน์ร่มเกล้า" กระชากคอเด็ก-ไม้บรรทัดตี

วันนี้ (1 ต.ค.63) ตัวแทนผู้ปกครองโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ร่มเกล้า กว่า 40 คน เป็นตัวแทนผู้ปกครอง นำรายชื่อผู้ปกครองกว่า 500 คน ยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้อำนวยการโรงเรียน หลังเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ โดยขอให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่ผู้ปกครองสามารถขอดูได้ และให้ชี้แจงคุณสมบัติของครูทุกคนในโรงเรียนว่ามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ถูกครูชาวต่างชาติทำโทษด้วยการบีบคอและกระชากตัวเด็กไปหน้าชั้นเรียน โดยมีเพื่อนนักเรียนเป็นพยาน 

ด้าน นางวรรษมนติ์ ซอสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ร่มเกล้า กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนกำลังตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว หากพบว่าครูทำผิดจริงพร้อมจะให้ออกทันที และขณะนี้ได้สั่งให้หยุดสอนแล้ว

ตัวแทนผู้ปกครองกล่าวด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ 1 ปี มีเด็กชั้นป.1 ถูกครูตีจนเกิดรอยเขียวช้ำ ผู้ปกครองได้ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้พาไปตรวจร่างกาย แต่ภายหลังได้มีการไกล่เกลี่ย รายนี้แม้ผู้ปกครองจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็ไม่ควรต้องเกิดขึ้น

ส่วนอีกรายเกิดขึ้นกับเด็กชั้นอนุบาล 2 ถูกครูตีด้วยไม้บรรทัดอะลูมิเนียมจนเป็นรอยแดง และเป็นแผลกว่า 14-15 จุด ซึ่งผู้ปกครองไปแจ้งความดำเนินคดีกับครูรายดังกล่าวแล้ว หลังจากผ่านไป 1 ปี ศาลได้นัดไต่สวนคำร้อง วันที่ 5 ต.ค.นี้ ซึ่งทั้ง 3 กรณีหากโรงเรียนมีกล้องวงจรปิด จะสามารถตรวจสอบได้ และมีหลักฐานเพื่อเอาผิดครูที่ทำผิด

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้โรงเรียนเปิดข้อมูลการร้องเรียนต่างๆ พร้อมคำชีแจ้ง รวมทั้ง ข้อมูลการรับเงินสนับสนุนจากทางกระทรวงศึกษาธิการ และเปิดให้มีการประชุมผู้ปกครองกับครูตามความเหมาะสมด้วย

ทั้งนี้ ผู้บริหารโรงเรียนได้รับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ปกครอง โดยจะดำเนินการเร่งด่วนโดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อความสบายใจของผู้ปกครอง

ด้าน กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ 6 คน ที่ถูก "ครูคาร์บู" ครูสอนดนตรีทำร้าย โดยใช้ด้ามตักขยะตีที่มือเด็กนักเรียนทั้งห้อง จนด้ามตักขยะหัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับครูคาร์บูที่ สภ.ชัยพฤกษ์

ขณะที่ วันนี้พนักงานสอบสวนนัดผู้ปกครองให้พาเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายมาให้ปากคำต่อหน้าพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี

หนึ่งในผู้ปกครอง กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ ยังถือว่าช้าพอสมควร เพราะเรื่องเกิดมา 1 เดือนกว่าแล้ว หลังเกิดเรื่องทางโรงเรียนได้เข้ามาขอโทษ และพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยไม่อยากให้เป็นข่าว พร้อมเสนอว่า จะให้เด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายเรียนพิเศษเป็นเวลา 3 เดือน ให้ทานไอศครีมฟรี ให้ดูการ์ตูน ซึ่ง ไม่ตรงประเด็นในการแก้ปัญหา เพราะผู้ปกครองต้องการให้ครูคนดังกล่าวหยุดอาชีพการเป็นครูเท่านั้น เพราะจากที่ตรวจสอบประวัติพบว่าไม่มีใบอนุญาตในการสอน เเต่เป็นศิษย์เก่าที่เพิ่งจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนนี้ พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้พาผู้ปกครองชั้นอนุบาลโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความข้อหาอนาจารเพิ่มเติม จากกรณีให้เด็กผู้หญิงถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนชุดกลางห้องเรียนเนื่องจากปัสสาวะราด ถือว่าเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีในร่างกายของเด็ก

ขณะที่ นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มอบหมายให้ทางนิติกรไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.ชัยพฤกษ์ ไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้นแล้ว ส่วนจะดำเนินการเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางโรงเรียนและผู้บริหาร เมื่อไรนั้น ยังต้องรอประชุมสรุปหลักฐานการกระทำผิดให้ชัดเจนก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้