ลักษณะผิวแบบไหนควรสงสัยเป็นมะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนัง คือ การที่ผิวหนังมีการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติไปจากเดิมเกิดเป็นเนื้อร้ายขึ้นมา สามารถเกิดได้ในทุกตำแหน่งของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ เช่น บริเวณใบหน้า แขน และหลัง โดยชนิดที่พบบ่อย มี 3 ชนิด คือ
- มะเร็งชนิดเบซัลเซลล์ (Basal cell carcinoma)
- มะเร็งชนิดสแควมัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma)
- มะเร็งชนิดเมลาโนมา (melanoma)
มะเร็งผิวหนังชนิด Malignant Melanoma นี้ เป็นมะเร็งผิวหนังที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงมาก โดยเป็นสาเหตุการตายถึง 75% ของผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังทั้งหมด โดยทั่วไปพบผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังชนิดได้ถึงปีละ 160,000 รายทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นในประชากรผิวขาว สำหรับประชากรไทยพบโรคมะเร็งผิวหนังชนิดนี้ได้น้อย
มะเร็งผิวหนังมักจะไม่มีอาการ แต่ลักษณะที่ควรสงสัยมะเร็งผิวหนัง คือ
- ตุ่มหรือผื่นที่เป็นมานานไม่หาย
- ตุ่มหรือผื่นที่เป็นมานานและมีการแตกเป็นแผล มีเลือดออก
- ไฝที่โตเร็วผิดปกติ
- ไฝที่มีสีเปลี่ยนแปลง
- ไฝที่ขอบเขตไม่เรียบ
- ไฝที่มีไฝเม็ดเล็กกระจายออกข้างๆ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
- แสงแดด
- สารเคมี เช่น สารหนูหรือ arsenic
- ผู้ที่มีสีผิวขาว เช่น ชาวยุโรปหรืออเมริกา
- โรคทางพันธุกรรมผิวหนังบางชนิด
- โรคผิวหนังบางชนิด
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องเช่นผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่ติดเชื้อ HIV
- การสูบบุหรี่
การรักษามะเร็งผิวหนัง
การรักษามีหลายวิธีขึ้นกับชนิดและระยะของมะเร็ง
- การผ่าตัด
- การฉายรังสี
- การให้เคมีบำบัด
การรักษามะเร็งผิวหนังที่ดีที่สุด คือ การเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะแรก สามารถรักษาโดยการผ่าตัดได้ หากมีตุ่มที่น่าสงสัยควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
การปกป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนัง
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- หากจำเป็นต้องออกแดด ควรใส่หมวกปีกกว้างหรือกางร่ม ใส่เสื้อผ้าแขนยาวขายาว
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหม้อ ยาสมุนไพร
- หมั่นสำรวจผิวหนังตัวเอง หากมีตุ่มที่มีลักษณะน่าสงสัยหรือไม่แน่ใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ในผู้ที่มีประวัติเคยเป็นมะเร็งผิวหนังมาก่อน หรือผู้ที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานกลางแดดเป็นประจำ หรือชาวยุโรปหรืออเมริกัน ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนังตั้งแต่ระยะแรกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง