“จุลพันธ์”หนุนกฤษฎีกาชงครม.อนุมัติเข้ากาสิโนต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้าน

“จุลพันธ์”หนุนกฤษฎีกา เตรียมชงครม.เร็วๆนี้อนุมัติร่างกฎหมายกาสิโนกำหนดคนเข้าต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้าน ตั้งเป้าดันร่างกฎหมายในสมัยประชุมสภาฯนี้ ไม่ห่วงเป็นแหล่งฟอกเงิน ระบุ ปัญหาฟอกเงินมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรพ.ศ…หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ และตั้งเป้าหมายว่า จะผลักดันร่างพ.ร.บ.ให้ทันสมัยการประชุมสภานี้ ซึ่งสาเหตุที่เสนอครม.อีกครั้ง เพราะการปรับเปลี่ยนร่างพ.ร.บ. มีสาระสำคัญ จึงควรจัดทำกระบวนการให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ ในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ปรับเปลี่ยนสาระสำคัญตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเพิ่มเติม คือกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนถูกกฎหมายต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท ขณะที่ ก่อนหน้านี้ได้พูดถึงข้อกำหนดให้คนไทยเข้าไปเล่นกาสิโนได้ แต่ต้องมีการยื่นแบบชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปี และเก็บค่าเข้าเล่นในกาสิโนยังเก็บ 5,000 บาทนั้น เป็นเพียงข้อเสนอหนึ่งจะต้องไปหารือกันต่อในสภา
“ร่างพ.ร.บ. ยังคงกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโนถูกกฎหมายต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาทยอมรับว่า แนวคิดกฤษฎีกา กับรัฐบาลอาจจะต่างกัน แต่สุดท้ายในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะรับร่างพ.ร.บ.ของกฤษฎีกา เพื่อส่งเข้าสภา ซึ่งสุดท้ายอำนาจอยู่ที่สภาว่าจะปรับแก้อย่างไร”
ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลเรื่องการฟอกเงิน และข้อเสนอให้นำพ.ร.บ.การพนันเข้ามาใช้กำกับดูแลนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า พ.ร.บ.การพนัน ไม่ได้เกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งเป็นกฎหมายตั้งแต่ปี 2478 ไม่มีความทันสมัยแล้ว โดยกระทรวงที่ดูแลจะไปปรับแก้อย่างไรก็เป็นเรื่องของหน่วยงาน แต่ในส่วนที่เราดำเนินการอยู่นี้เป็นคนละส่วนกัน เนื่องจากเราใช้หลักคิดคล้ายกับอีอีซี คือ ต้องมีอำนาจพิเศษ เกี่ยวกับการกำหนดใบอนุญาตหลัก (Super Licence) และการดำเนินโครงการ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาก็เห็นด้วย
“โครงการลักษณะนี้ หากไม่มี Super Licence ก็จะเดินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีกลไก ซึ่งเราได้ใส่ไว้แล้วฉะนั้น พ.ร.บ.บางฉบับที่มีความเกี่ยวเนื่องก็เว้นไป ส่วนเรื่องข้อเป็นห่วงการฟอกเงิน จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นประเด็นที่น่าห่วง ซึ่งไม่อยากให้มองภาพเหมือนประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหา เป็นคอลเซ็นเตอร์ แต่ของเราจะเป็นมาตรฐานระดับประเทศ (National Standards)”
เขายังกล่าวด้วยว่า เรื่องการฟอกเงินนั้น เรามีกฎหมายกำกับดูแลอยู่แล้ว และหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ มีอำนาจดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาจะช่วยเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ เพราะนักลงทุนระดับโลก เข้ามาลงทุนระดับ 1 แสนล้านบาท ก็มีความกังวลเรื่องการฟอกเงินเช่นเดียวกัน เพราะหากเขาเข้ามากระทำผิดในพื้นที่เรา ซึ่งส่วนใหญ่นักลงทุนไม่ได้ลงทุนเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่มีการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ก็จะโดนเพิกถอนใบอนุญาตในประเทศเหล่านั้นด้วย ฉะนั้น นักลงทุนจะต้องเข้ามาลงทุนด้วยความโปร่งใสที่สุด
ขณะที่ เราเองก็มีอำนาจในการกำกับดูแล โดยมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เช่น กฎหมายในร่างพ.ร.บ. กำหนดให้มีกลไกในการตรวจสอบทุก 5 ปี ว่าผู้ประกอบการดำเนินการถูกต้องตามกฎระเบียบที่เราตั้งไว้หรือไม่ หากไม่ทำตามเงื่อนไข หรือทำเรื่องผิดกฎหมาย เป็นการประกอบธุรกิจสีเทา หรือสีดำ เราก็จะเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการจะไม่ยอมเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การเดินหน้าจัดตั้งกาสิโน ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศไทย เพราะประเทศเราพึ่งพาการท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ ประเพณี และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ซึ่งถึงจุดที่การเติบโตเป็นไปได้ค่อนข้างช้า จึงมีความจำเป็นต้องมีเครื่องยนต์ใหม่ที่จะเข้ามาเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งEntertainment Complex จะเป็นตัวที่เข้ามาเปลี่ยน ทั้งนี้ จะเห็นว่าประเทศอื่นๆ ก็เริ่มผลักดันในเรื่องนี้เช่น ดูไบ และญี่ปุ่น เป็นต้น ขณะเดียวกัน จากโมเดลสิงคโปร์ จะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่า สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวได้
ส่วนกรณีที่ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า นักลงทุนเข้ามาส่วนใหญ่รัฐจะมีการยกเว้นภาษีให้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่ต่ำกว่าคาดไว้นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เรายังไม่เห็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งบางประเทศที่มีปัญหานั้น ส่วนใหญ่มีการออกกาสิโนเป็นดอกเห็ด แต่ของไทยมีมาตรฐานที่นำเข้ามาจากประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งไทยมีกลไกกำกับดูแล และมีเรทในการจัดเก็บ เพื่อดึงรายได้เข้ารัฐได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“กาสิโนในไทยจะไม่ขึ้นเป็นดอกเห็ด เราจะมี Entertainment Complex ไม่กี่จุด ซึ่งกำกับดูแลได้ อยู่ในอำนาจที่รัฐกำหนด สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐ สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยเวลาที่นักลงทุนเข้ามา เรากำหนดได้ว่าเราอยากได้อะไร เช่น สวนสนุกระดับโลก สนามกีฬา ศูนย์แสดงสินค้า โรงโอเปร่าโรงแสดงละคร เป็นต้น และเมื่อมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนใน Entertainment Complex แล้ว นักลงทุนเหล่านั้นจะเป็นผู้โปรโมทให้เรา เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น”
เขายอมรับว่า ความสนใจของนานาชาติมีต่อ Entertainment Complex สูงมาก เพราะประเทศไทยมีแรงดึงดูดจากนักลงทุนต่างชาติในการเดินหน้า Entertainment Complex และนักลงทุนเชื่อมั่นว่าจะมีการคุ้มทุน ซึ่งไทยมีนักท่องเที่ยวเป็นฐานกว่า 30 ล้านคนต่อปี มีการท่องเที่ยวประเทศอื่น มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ เช่น การคมนาคม การขนส่ง โรงแรมที่มีความพร้อม เป็นต้น