#ตลท. #ทันหุ้น - ตลท. แจง ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยช่วงนี้ เป็นการทำกำไร หลังก่อนหน้านี้ซื้อต่อเนื่อง  เตรียมเดินทางไปฮ่องกง เร็วๆนี้ เพื่อรับฟังความเห็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ “โปรดักต์-กฎเกณฑ์”   หวังเพิ่มเสน่ห์ให้กับตลาดหุ้นไทย ยันพื้นฐานประเทศไทยแกร่ง แม้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลด Outlook ประเทศไทย -5 แบงก์ เป็นลบ

นายอัสสเดช  คงสิริ  กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า   นักลงทุนต่างชาติที่มีการขายหุ้นไทยในช่วงนี้ต่อเนื่องนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนต่างชาติจะมีการขายเพื่อทำกำไรบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาซื้อสุทธิต่อเนื่องทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมา  แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมามองที่ปัจจัยพื้นฐานว่าเศรษฐกิจไทย และกำไรของบริษัทจะเติบโตได้แค่ไหน

@เพิ่มเสน่ห์หุ้นไทย

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ มีแผนที่จะมีการเดินทางไปพบนักลงทุนสถาบันที่ฮ่องกงในเร็วๆ นี้ เพื่อไปรับฟังข้อมูลว่าจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติว่า ตลาดหลักทรัพย์จะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันต่างชาติ  ทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์ (โปรดักต์) การลงทุน และกฎเกณฑ์ต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันต้องมีการปรับปรุงอะไรบ้าง  

สำหรับเบื้องต้นที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ข้อมูลจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้าร่วมงานไทยแลนด์โฟกัสในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือเรื่อง e-Proxy   และเป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะผลักดันให้บจ.สนับสนุนการใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น คือ e-Proxy  เพื่ออำนวยความสะดวก ลดการใช้เอกสารกระดาษ และทำให้ทุกอย่างจัดการผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด

“ที่ตลาดหลักทรัพย์ไปฮ่องกงนั้น เพราะมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวนมากตั้งออฟฟิศที่นั่น และการไปครั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ไปเอง ไม่ได้พาบจ.ไปด้วย   ซึ่งการไปครั้งนี้เพื่อพบกับนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว ว่าเขาต้องการอะไร หรือมีอะไรที่เราจะปรับปรุงได้บ้าง เพื่อทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจของนักลงทุนสถาบันต่างชาติ”

              อย่างไรก็ตามขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการทำแผนโรดโชว์ต่างประเทศในปีหน้า เพราะจังหวะที่พาบจ.ไปพบด้วย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการทำโครงการ JUMP+ ถือเป็นสตอรีที่ตลาดหลักทรัพย์จะนำไปให้ข้อมูลด้วย

@ยันพื้นฐานแกร่ง

นายอัสสเดช  กล่าวถึง กรณีที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิต (Outlook) 5 ธนาคารพาณิชย์ของไทยเป็นลบ จากเดิม “เสถียรภาพ” หลังจากก่อนหน้าปรับลด Outlook ประเทศไทยเป็นลบ จากเดิมเสถียรภาพ ว่า  ส่วนตัวมองว่าพื้นฐานของประเทศไทยแข็งแกร่งอยู่   ซึ่งปัจจุบันปัจจัยที่เคยสั่นคลอนเศรษฐกิจเริ่มลดน้อยลงเมื่อเทียบกับต้นปี 2568 หรือปลายปี 2567  และมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น ภาษีตอบโต้ของสหรัฐ  การเมืองไทยก็มีมีความชัดเจนคาดการณ์ได้ หลังมีรัฐบาลใหม่ และ มีโรดแมปที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในต้นปีหน้า

สำหรับนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ได้แถลงต่อรัฐสภานั้นเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่สามารถทำได้จริงๆ  ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเชิงบวก  และปัจจัยหรือข่าวที่เป็นเชิงลบน้อยลงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี  แต่ในระยะถัดไปก็ต้องดูรัฐบาลต่อไปว่านโยบายจะเป็นอย่างไร  จะมีความมั่นคงอย่างไร