รีเซต

SISเน้นรับงานทำรายได้ดี ยอดขายไตรมาส3เพิ่มขึ้น

SISเน้นรับงานทำรายได้ดี ยอดขายไตรมาส3เพิ่มขึ้น
ทันหุ้น
1 ตุลาคม 2568 ( 08:43 )

#SIS #ทันหุ้น – SIS แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ยอดขายปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่กำไรขั้นต้นเติบโตสูงขึ้น เพราะเน้นรับงานที่มีมูลค่าสูง ทั้งนี้การรับงานราชการเริ่มน้อยลง เพราะรัฐบาลได้ตัดงบลงทุน โดยงานที่ยังมีการเติบโตจะเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ด้วยเอง ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐ ขณะที่ภาคเอกชน เช่น ธนาคาร ไฟฟ้า โรงพยาบาล และสื่อสาร ที่เริ่มมีการลงทุนในเรื่อง Security มากขึ้น

นายสมชัย  สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SIS ดำเนินธุรกิจขายส่งคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติต่าง ๆ ในประเทศไทย เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ในเชิงยอดขายถือว่ามีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบ YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างเยอะ เพราะว่าในช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจมีการปรับมาสู่สินค้าที่เป็นโซลูชัน (Solution) มากขึ้น ซึ่งเป็นงานที่มีมูลค่าสูง แต่กำไรสุทธิอาจไม่ได้สูงมากเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงขึ้น

โดยสินค้าประเภท Solution ต้องใช้บุคลากรที่แตกต่างออกไป ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นจากค่าจ้างแพงขึ้น และยังมีกระบวนการเรียนรู้ที่นาน ทำให้ระยะเวลาที่จะคืนทุนมากกว่าปกติ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับคนจำนวนมากเนื่องจากมีสินค้าด้าน Solution เข้ามามากขึ้น โดยปกติแล้วพนักงานที่เข้ามาจะเรียนรู้ได้เร็วและสามารถเริ่มทำงานได้เลย

@หวังรัฐบาลเพิ่มงบลงทุน

ขณะที่ทิศทางการรับพนักงานราชการเริ่มน้อยลง  เนื่องจากลูกค้ารายงานว่ารัฐบาลชุดเก่าได้มีการตัดงบประมาณการลงทุนลง สำหรับหน่วยงานที่ยังไม่เซ็นสัญญา ซึ่งเป็นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี คาดการณ์ว่ารัฐบาลต้องการดึงเงินไปใช้ในงบประมาณสำหรับนโยบายแจกเงิน 

โดยบางงานที่บริษัทได้เซ็นสัญญากับหน่วยงานราชการไว้แล้วก่อนสิ้นเดือนกันยายน 2568 ซึ่งได้มีการทำงานและส่งมอบงานไปแล้วแต่ยังได้รับเงิน โดยเจ้าหน้าที่ราชการให้รอเงินงวดใหม่ในเดือนตุลาคม 2568 รวมถึงบางงานที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาได้ถูกยกเลิกไปเลย

ทั้งนี้พอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา มีงบประมาณใหม่ คาดว่าจะไม่มีการตัดงบการลงทุนมากนัก แต่ถึงแม้จะมีการตัดงบก็ไม่ได้ร้ายแรงเพราะรัฐบาลชุดใหม่ดูเหมือนจะไม่มีวาระที่จะแจกเงินหรือทำโครงการใหญ่เหมือนชุดเดิม และหวังว่าจะมีการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นการลงทุนมากขึ้น มากกว่าการแจกเงิน

@ความต้องการ Security สูง

ในส่วนปริมาณการสั่งออเดอร์ของลูกค้าโดยรวมยังอยู่ในระดับปกติ โดยกลุ่มธุรกิจที่พึ่งพากำลังซื้อของครัวเรือนหรือรากหญ้ายังไม่ดีขึ้น เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ขายเพื่อใช้ในบ้านหรือใช้ส่วนตัว เช่น PC (โน้ตบุ๊ก/เดสก์ท็อป) ลูกค้ากลุ่มนี้ซื้อรุ่นที่ถูกลง หรือถ้าไม่จำเป็นจะไม่ซื้อใหม่

ขณะเดียวกันธุรกิจที่ยังมีการเติบโต เช่น กลุ่มรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ด้วยเอง ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐทั้งหมด อาทิ NT ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีการลงทุนและซื้อจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มราชการที่งบยังไม่ถูกตัด ส่วนภาคเอกชนลูกค้ากลุ่มธนาคาร รวมถึงที่เกี่ยวกับ Finance, Insurance เป็นกลุ่มที่ยังมีการใช้จ่ายที่ดีและค่อนข้างมาก และมีการลงทุนด้าน Security เยอะ

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า โรงพยาบาล และสื่อสาร ที่ถูกทางรัฐบาลกำหนดให้มีการลงทุนด้าน Security อย่างโรงพยาบาลใหญ่ๆ ทั้งเอกชนและรัฐจะถูกบังคับ และเริ่มขยายไปยังโรงพยาบาลขนาดกลาง ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานยังเติบโต

 ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขายดีขึ้น ดังนั้นบริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการหาลูกค้าจีนที่เข้ามาตั้งบริษัทเข้ามาในไทย ปัจจุบันได้เข้าไปคุยกับลูกค้าบางส่วนเพื่อให้หันมาซื้อสินค้ากับบริษัทและใช้ของภายในประเทศไทยแทนที่จะใช้ของจากประเทศตัวเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง