รีเซต

บลจ.กสิกรไทยเชียร์หุ้นไทย ทางรอดลงทุนเน้นปันผลสูง

บลจ.กสิกรไทยเชียร์หุ้นไทย ทางรอดลงทุนเน้นปันผลสูง
ทันหุ้น
1 ตุลาคม 2568 ( 07:31 )

#บลจ.กสิกรไทย #ทันหุ้น- บลจ.กสิกรไทย ยังเอ็นดูหุ้นไทย ชี้มีโอกาสแม้ในสถานการณ์ที่ยังผันผวน ชูหุ้นปันผลสูงในกลุ่มแบงก์ พลังงาน ที่จ่ายปันผลได้ดี พร้อมคัดกองทุน K-VALUE เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการบริหารพอร์ตอย่างมั่นคงท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยที่อยู่ภายใต้เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ มีความสามารถในการรับมือกับภาวะตลาดขาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายวิน พรหมแพทย์  CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า โอกาสสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงมีอยู่ แม้สถานการณ์ที่ผ่านมาจะสะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้เติบโต (Growth) สูงมาก ซึ่งก็โตล้อไปกับเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ไม่ได้เติบโตสูงเมื่อเทียบกับอดีต โดย 10 ปี ที่แล้ว GDPไทยโตเฉลี่ยที่ 3.6% ย้อนกลับไปก็โตระดับ 4-5% ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ปีนี้ประเมินว่า GDP ไทยจะเติบโต ราว1.8%

*เลือกหุ้นปันผล

“เรายังมองว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนหนึ่งเพราะโครงสร้างของประเทศไทยเปลี่ยนไปทั้งเรื่องของสังคมสูงวัย และเรื่องของหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง การขยายตัวของเศรษฐกิจก็สะท้อนไปยังตลาดหุ้นไทย ที่วันนี้ SET ยังคงติดลบราว 8% แม้ผลงานจะติดลบ แต่ก็ใช่ว่าไม่มีโอกาส โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในหุ้นปันผล ยังคงสามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาด”

นายวิน กล่าวว่า หุ้นที่ปันผลได้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และทนทานต่อทุกๆ สถานการณ์ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าหุ้นปันผลทุกตัวจะลงทุนได้ ซึ่งบลจ.กสิกรไทย จะต้องดูมูลค่าราคา (Valuation) ที่เหมาะสมด้วยว่าไม่แพงเกินไป ขณะเดียวกันก็มีโอกาสในการจ่ายปันผลได้มากขึ้น ซึ่งหุ้นที่ว่านั้นอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน และแบงก์

  นายวิน กล่าวต่อไปว่า การที่จะสามารถจ่ายปันผลได้มากขึ้นของกลุ่มแบงก์ ส่วนหนึ่งก็มาจากการลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นได้มากขึ้น ขณะเดียวกันถ้ามองไปในแง่การลงทุน กลุ่มแบงก์ก็ไม่ได้ใช้เม็ดเงินตรงนี้สูงมากนัก เช่นเดียวกับกลุ่มพลังงานที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น

“นอกจากนี้เรายังมองหุ้นปันผล ที่ราคาปรับตัวลงเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน เพราะจะทำให้อัตราการจ่ายปันผลสูงขึ้น ดังนั้นการเลือกหุ้น เราจึงไม่ได้มองแค่ปันผลสูง แต่ก็มองถึงจังหวะในการเข้าเก็บหุ้นที่ราคาปรับตัวลงด้วย”

*คัดมาแล้ว K-VALUE

จากกลยุทธ์ดังกล่าว บลจ.กสิกรไทย จึงแนะนำ กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล หรือ K-VALUE เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการบริหารพอร์ตการลงทุนหุ้นไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกองทุนดังกล่าวมีแนวทางการลงทุนที่เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด พร้อมให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลประกอบการและความมั่นคงทางการเงินของบริษัทที่ลงทุน เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะยาว

กองทุน K-VALUE เป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นไทยชั้นนำซึ่งมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงความผันผวนที่ต่ำกว่าในภาวะตลาดขาลง (Downside Resilience) เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กองทุน K-VALUE มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 6.2% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี SET Index ที่อยู่ที่ 4.1% อีกทั้งยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลังที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อย่างไรก็ดี ปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ โครงสร้างประชากร ความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพด้านธรรมาภิบาล ยังคงเป็นข้อจำกัดต่อศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ขณะที่แรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ทั้งในด้านการผ่อนคลายทางการเงินและการเบิกจ่ายงบประมาณ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ โดยการฟื้นตัวของตลาดจากจุดต่ำสุดในปี 2568 ได้รับแรงหนุนจากการลดภาษีและความเสี่ยงทางการเมืองที่ลดลง แม้ตลาดยังซื้อขายในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวโดยมองเป้าหมายดัชนีปลายปีอยู่ที่ระดับ 1,300-1,340 จุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง