พรุ่งนี้ 'บิ๊กตู่' นั่งปธ.ประชุม ศบศ. รับฟังข้อเสนอเอกชน เล็งถกปรับโครงสร้างภาษี ดึงดูดนักลงทุน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ในวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคมนี้ จะมีการทบทวนการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงปลายปีหรือไม่ ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไปในวันนี้ เราต้องรักษาเศรษฐกิจเดิมให้ได้มากที่สุด และจะต้องมีเศรษฐกิจใหม่ของเราเพื่อพลิกโฉมประเทศให้เดินต่อไปข้างหน้าในโลกยุคนิวนอมอล ทั้งนี้เราจะต้องไปดูเรื่องส่งเสริมการลงทุนของเราให้มีมากยิ่งขึ้น ต้องปรับรูปแบบกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงต้องปรับรูปแบบเรื่องสิทธิประโยชน์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ปรับเรื่องโครงสร้างภาษีในส่วนของกระทรวงการคลัง ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีการลงทุนในประเทศ โดยคนไทยและนักธุรกิจข้ามชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงจะต้องดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาประกอบธุรกิจหรือเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเราจะช่วยทำทุกอย่างให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันตนยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับคนไทยและธุรกิจของคนไทย เราต้องช่วยไปด้วยกัน บางทีการสร้างความเข้มแข็งเปรียบเหมือนการนำไม้ไผ่เล็กๆหลายๆ แท่งมามัดรวมกันเป็นกำก็จะหักไม่ได้ แต่ถ้าไม้ไผ่เล็กๆ แท่งเดียวจะถูกหัดได้ง่าย ดังนั้นเราต้องทำทั้งเรื่องการลงทุนข้ามชาติ การลุงทุนในประเทศโดยคนไทยและส่งเสริมการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างจีดีพีของประเทศไทยให้เติบโตขึ้น และจะส่งผลให้งบประมาณภาครัฐมีมากขึ้นทำให้ประเทศพ้นกับดักต่างๆ ไปได้แล้วเราจะมีเงินมาดูแลประชาชนของเรา เพราะที่ผ่านมาประเทศของเรายังมีการเติบโตไม่เพียงพอ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนก็จะอยู่ลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้มีปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องภาษี การจัดเก็บรายได้ ที่ยังจัดเก็บไม่ได้มากนัก ส่งผลให้มีการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล ดังนั้นเราต้องหาทางลดการขาดดุลให้ได้มากที่สุดซึ่งคือ การลงทุน วันนี้ได้มีการเจรจากับหลายประเทศและบริษัทหลายแห่งซึ่งเขาสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย
“เราทุกคนไม่ควรทำลายศักยภาพที่ประเทศเรามีอยู่ ทั้งในเรื่องความสงบเรียบร้อย ความรักความสามัคคี อัตลักษณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ เราต้องพัฒนาทั้งหมดนำไปสู่ความทันสมัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเกษตร การพาณิชย์ การลงทุนธุรกิจใหม่ การอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นทุกพื้นที่ สิ่งเหล่านี้คือเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้ได้ตามนี้และตามงบประมาณที่เรามี” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันเวลาไม่คอยท่าใครถ้าประเทศเราเริ่มก่อนเราก็จะได้ก่อนเราก็จะได้ประโยชน์ก่อน เพราะเวลานี้เป็นช่วงที่ทุกบริษัทขนาดใหญ่ในโลกกำลังแสวงหาสถานที่ประกอบการที่เหมาะสมที่ทำให้เกิดประโยชน์โดยรวมทั้งของเราและของเขานั้นคือเรื่องสิทธิมนุษยชนด้านเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันเราต้องปรับกฎหมายหลายฉบับควบคู่กับการทำความเข้าใจกับประชาชน ถ้าเราไม่ทำสิ่งเหล่านี้เราก็จะช้าเกินไป จึงขอให้ทุกคนมาช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ด้วย ขณะเดียวกันก็ขอให้ ศบศ. ไปรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ยืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายอยู่แล้วในการสนับสนุนส่งเสริมภาคเอกชน