ศาลรัฐธรรมนูญรับข้อมูลปม 8 ปีครบแล้ว ถก 14 ก.ย.ลุ้นชี้คดี 'บิ๊กตู่'

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการพิจารณาการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำหแน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีแล้วหรือไม่ ซึ่งในการประชุมศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา มีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 13 กันยายน ล่าสุดขณะนี้เอกสารส่งถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ การประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 14 กันยายน ที่ประชุมจะหารือว่าจะมีแนวทางการพิจารณาอย่างไร โดยพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ ว่าเพียงพอที่จะนัดลงมติและนัดอ่านคำวินิจฉัยได้หรือไม่ หากพิจารณาจากเอกสารพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วสิ้นข้อสงสัยก็จะกำหนดวันนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังได้เลย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงแนวทางของรัฐฐาบในรองรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่มี เพราะหากวินิจฉัยว่าไม่เริ่มนับปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์สามารถกลับมาทำงานได้ในวันรุ่งขึ้น หรือหากศาลวินิจฉัยว่านับตั้งแต่ปี 2557 จะครบวาระ 8 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ต้องกลับมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรักษาราชการแทนนายกฯ จะนั่งรักษาการแทนต่อ จนกว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภา จะเรียกประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นลบกับ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตรมีอำนาจยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า บอกมาตลอดแล้วว่าในทางทฤษฎีถือว่ามีอำนาจ แต่ในทางปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่าย เช่น ในสมัยพฤษภาทมิฬที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ลาออก และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ มีอำนาจในการยุบสภา แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็ไม่ยุบสภา แล้วก็ไปหานายกฯดีกว่า จึงได้ นายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งต่อมาก็ได้ยุบสภา ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและหลายๆ อย่างด้วย