‘มิ้นต์ช็อก’ เปิดที่มาเมนูหวานฉ่ำ ประวัติสุดยาวนานไม่ธรรมดา!

‘มิ้นต์ช็อก’ เปิดที่มาเมนูของหวานฉ่ำๆ ประวัติสุดยาวนานไม่ธรรมดา เคยขึ้นโต๊ะเสิร์ฟราชวงศ์มาแล้ว!

ถือว่าเป็นเมนูฮิตในกระแสอยู่ในขณะนี้สำหรับ ‘มิ้นต์ช็อก’ ของหวานดับร้อนที่ใครๆถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย เพราะบางเสียงบอกว่ารสชาติไม่ต่างกับการกินยาสีฟัน จริงๆแล้ว รสชาติอันหอมหวานเย็นชื่นใจนี้ ไม่ใช่ของใหม่ แต่มีประวัติที่มายาวนาน เรามาดูว่า ‘มิ้นต์ช็อก’ มีต้นกำเนิดมาจากไหนกันแน่ 

'มินต์ช็อก หรือ Mint Chocolate'  เป็นส่วนผสมของรสชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ชาวยุโรปเป็นคนกลุ่มแรกที่ ‘ผสมมินต์และช็อกโกแลต’ เข้าด้วยกันหลังจากเดินทางไปอเมริกาใต้ 

ในยุคสมัยนั้น ช็อกโกแลต นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มร้อนกันอย่างแพร่หลาย โดยเครื่องดื่มมักจะมีส่วนผสมของ อบเชย สะระแหน่ และสมุนไพรและเครื่องเทศอื่นๆ เพื่อทำให้รสขมหวานขึ้น โดย มินต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในวัตถุดิบเหล่านั้น 

ดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งเป็นผลผลิตมาวัฒนธรรมของชาวมายัน และ ชาวแอชแท็ก โดยพวกเขาได้พัฒนากระบวนการเก็บเกี่ยว และ ผลิตซึ่งทำให้ได้มาซึ่ง ช็อกโกแลตที่มีสีเข้ม และ รสชาติขม เมื่อชาวยุโรปนำเมล็ดโก้โก้กลับมายังถิ่นฐาน พวกเขาได้ใช้ใบสะระแหน่  ปรับปรุงรสชาติช็อกโกแลตขมๆให้ดีขึ้น

ในยุควิคตอเรีย ปี 1940 แบรนด์ขนมสัญชาติอเมริกัน ได้ คิดค้นครีมเปปเปอร์มินต์ทรงกลม เคลือบภายนอกด้วยดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งผลตอบรับของขนมชนิดนี้ดีมาก เป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะในหมู่เด็กหญิงในสหรัฐอเมริกา

จากนั้นในปี  1973 มาริลิน ริคเก็ตต์ นักเรียนทำอาหารของ สถาบัน  Torquay Catering College ในอังกฤษ  ได้ยกระดับการผสมผสานรสชาติขึ้นไปอีกขั้น เธอพัฒนา มินต์ช็อกเป็น  'ไอศกรีมมินต์ช็อกโกแลตชิป'  ซึ่งรับความนิยมอย่างรวดเร็วจนกลายและชื่อเสียงความอร่อยกระฉ่อนไปถึงราชวงศ์อังกฤษ ถึงขนาดที่  เจ้าหญิงแอนน์และกัปตันมาร์ก ฟิลลิปส์นำมาเสิร์ฟในพิธีเสกสมรสอีกด้วย 

เรียกได้ว่า มินต์ช็อก ถือเป็นของหวานที่มีประวัติที่มายาวนาน และ เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมด้านอาหารของโลกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหยุดบูลลี่น้องมิ้นต์ช็อก ว่ารสชาติ เหมือนยาสีฟันกันได้แล้ว! 

ข้อมูลจาก : https://www.hotelchocolat.com/uk

ภาพจาก :  TNN ONLINE