TFGบริโภคกลับมาคึก ผ่านจุดต่ำ-ราคาหมูเด้ง

#TFG #ทันหุ้น - TFG ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด ออเดอร์ฟื้นตัวต่อเนื่อง บริโภคปลายปีคึก มั่นท่องเที่ยวยังรับอานิสงส์ฟรีวีซ่าจีน-คาซัคสถาน หนุนยอดขายสดใส เดินหน้าเปิดสาขาร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต” 400 สาขา ยืนเป้าหมายในปี 2566 โต 10% ด้านโบรกชี้ราคาหมูฟื้นตัว ดันกำไรไตรมาส 4ดีดลูกคิดปีหน้ากำไรทะยาน 106%

นายเพชร นันทวิสัย  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทมองภาพรวมธุรกิจของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และคาดจะได้เห็นคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ฟื้นตัวในช่วงที่เหลือปีนี้ ผลมาจากเป็นช่วงที่มีกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปีที่ทำให้การบริโภคสูงขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมั่นใจว่าจะคึกคักจากและส่งผลดีต่อยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้

“ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการ "วีซ่าฟรีชั่วคราว" เป็นการชั่วคราวในการเดินทางเข้าประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และคาซัคสถาน ไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 บริษัทประเมินว่าถือเป็นอีกปัจจัยบวกต่อการดำเนินงานของธุรกิจ เพราะการเข้ามาของต่างชาติจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายเติบโตมากขึ้น”

จากการสำรวจตัวสัดส่วนรายได้ของ TFG ล่าสุดนั้นมาจากการผลิตและจำหน่ายให้ค้าให้กับลูกค้าทั้งในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและลูกค้าทั่วไป คิดเป็นตัวเลขประมาณ 70%, การส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปยังต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 30%

เดินหน้าเปิดร้านค้าปลีก

สำหรับแนวทางการบริหารงานช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทยังเน้นการขยายฐานในส่วนของธุรกิจค้าปลีก (รีเทล) ภายใต้ร้านค้าแบรนด์"ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" ซึ่งตามแผนงานเดิมนี้ทั้งปีเป้าเปิดสาขาใหม่ให้เพิ่มเป็น 400 สาขา จาก ณ สิ้นปี 2565 ที่ 220 สาขา หวังช่วงทำตลาดในกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมทั้งสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอีกทางหนึ่ง

ส่วนงบลงทุนปี 2566 ในช่วงที่ผ่านมาทาง TFH วางไว้ประมาณ 3.0-3.5 พันล้านบาท รองรับใช้ในการแผนขยายโรงงานผลิตอาหารสัตว์ และฟาร์มเลี้ยงหมูในประเทศเวียดนาม, ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ในประเทศเวียดนาม รวมถึงปรับปรุงธุรกิจในส่วนต่างๆ เสริมความแข็งแกร่งในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น

ปีนี้รายได้ตามเป้า

นายเพชร กล่าวเสริมว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 บริษัทยังประมาณการรายได้เติบโตไว้ราว 10-15% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ 5.26 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจมีการทำตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทขยายตัว นอกเหนือจากการที่บริษัทยังมีการขยายโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เป็นไปตามที่วางไว้

อนาคตไกล 4.8 บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ"ซื้อ" หุ้น TFG ให้ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท เพราะฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มราคาหมูที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรในไตรมาส4/2566

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังคาดกำไรปี 2567 จะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นมาอยู่ที่2,408 ล้านบาท พลิกกลับมาเติบโตสูงถึง 106% เมื่อเทียบกับปี2566 เนื่องจากคาดราคาหมูจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับปกติ ที่เหนือ80 บาทต่อกิโลกรัมได้ หลังมองว่าปัญหาเรื่องหมูลักลอบนำเข้าคลี่คลาย

นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าตัวเลขสัดส่วนรายได้ค้าปลีกสูงขึ้น หนุนกำไรระยะยาว ซึ่งทาง TFG ตั้งเป้าขยายสาขาของร้านค้าปลีก Thaifood Fresh Market เพิ่ม 500-550 สาขา ในปี2567 (จากปี2565 ที่ 220 สาขา) โดยตั้งเป้ายอดขายที่ราว150,000 บาทต่อสาขาต่อวัน ด้วยสมมติฐานดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29% และ 34% ของรายได้รวมในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ จากในปี2565 ที่ราว 15% ซึ่งนอกจากจะช่วยหนุนยอดขายแล้ว อีกทั้งยังทำให้อัตรากำไรของบริษัทในอนาคตผันผวนน้อยลงอีกด้วย (อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ราว 18-20%)