รีเซต

RBFขยายฐานต่างแดน ชูสินค้าไฮมาร์จิ้นขายดี

RBFขยายฐานต่างแดน ชูสินค้าไฮมาร์จิ้นขายดี
ทันหุ้น
24 มกราคม 2566 ( 11:37 )
37
RBFขยายฐานต่างแดน ชูสินค้าไฮมาร์จิ้นขายดี

#RBF #ทันหุ้น-RBF วางเป้ารายได้รวมปี 66 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีก่อน เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเต็มสูบ หวังเพิ่มสัดส่วนเป็นกว่า 25% ของรายได้รวม จากเดิมราว 20%จับตาอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน หลังสินค้าไฮมาร์จิ้นขายได้เพิ่ม วางงบ 500 ล้านบาท รองรับการก่อสร้างโรงงานอินโด-ปรับปรุงเครื่องจักรผลิต

 

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2566 มีแนวโน้มกลับมาเติบโตที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการกลับมาเปิดประเทศทั้งในไทยและประเทศอื่นๆ ทำให้เห็นสัญญาความต้องการอุปโภคและบริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน

 

*รุกเจาะตลาดตปท.

 

ประกอบกับจากการเดินทางระหว่างประเทศที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้การส่งออกสินค้าของลูกค้าผู้ประกอบการ การผลิตใช้กำลังผลิตเพื่อของรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเดินทางเพื่อเข้าไปสำรวจและขยายตลาดในต่างประเทศของบริษัทเป็นไปได้ง่ายขึ้น สะท้อนแนวโน้มของยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2566 โดยบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปีนี้ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 15-20% จากปีก่อน

 

โดยในปี 2566บริษัทยังมีความสนใจและมองหาโอกาสในการเข้าไปขยายตลาดต่างประเทศทั้งในประเทศที่มีการส่งออกอยู่แล้วและในประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับทางคู่ค้าในแถบตะวันออกกลางเพื่อร่วมหาแนวทางในการกลับมาทำการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวไปในช่วงโควิด-19 ขณะที่ตลาดญี่ปุ่น จีน และประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดเดิมที่บริษัทมีการส่งออกอยู่แล้วยังมีสัญญาณที่เป็นบวกอยู่

 

ขณะที่ตลาดอินโดนีเซียและเวียดนาม ยังคงมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากยังคงได้คำสั่งซื้อจากลูกค้าท้องถิ่นและในประเทศใกล้เคียงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดอินเดียนั้น ในปัจจุบันยอดขายยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในปีนี้จะมีการขยายตัวที่ชัดเจนกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจดังนั้นจึงมีฐานที่ต่ำ

 

"ภาพรวมอุตสาหกรรมปีนี้มีแนวโน้มที่ดี การเปิดประเทศ การออกโปรดักต์ใหม่ของลูกค้าดีขึ้นตามลำดับ ทำให้มองว่าตลาดจะมีการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เราจะให้ความสำคัญในการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 25% ของรายได้รวม จากเดิมที่มีสัดส่วนราว 20% สำหรับการแจ้งผลประกอบการปี 2565 นั้น คาดว่าจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2566"นายสุรนาถ กล่าว

 

*Q1 ลุ้นดีลใหม่

 

นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ปัจจัยหลักๆ เป็นผลมาจากสินค้ากลุ่ม Food Coating โดยเฉพาะสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงจะเติบโตได้ดี อีกทั้งจากการกลับมาแข็งค่าของเงินบาททำให้บริษัทมีต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าที่ลดลง รวมถึงจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นยังทำให้อัตราการใช้กำลังผลิตเฉลี่ยในระดับสูง

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อหา Synergy ใหม่ๆ ต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาอยู่บ้างแล้ว โดยมีความเป็นไปได้ทั้งการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) คาดว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจน

 

ส่วนงบลงทุนในปี 2566 บริษัทวางแผนการใช้งบประมาณไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท หลักๆ เพื่อรองรับการก่อสร้างโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่ารวมราว 500 ล้านบาท รวมถึงเงินลงทุนบางส่วนจะถูกนำมารองรับการซ่อมบำรุง และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานในประเทศไทย อย่างไรก็ดี เงินลงทุนดังกล่าวยังไม่ถูกนับรวมกับดีลใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในระหว่างปีนี้

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง