ญี่ปุ่นวิจัยพบ "การเสียชีวิตส่วนเกิน" ครึ่งปีแรก พุ่งสูงสุดตั้งแต่เกิดโควิด-19
ญี่ปุ่น คาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนเกิน ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน อยู่ที่ 17,000-46,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 อุบัติขึ้นในช่วงต้นปี 2563 คาดสาเหตุจากการเข้าไม่ถึงสถานพยาบาล การเจ็บป่วยเรื้อรัง ตลอดจนการฆ่าตัวตายเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลการวิจัยจากกลุ่มองค์กรของญี่ปุ่น สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ คาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนเกินในญี่ปุ่น ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน อยู่ที่ 17,000-46,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 อุบัติขึ้นในช่วงต้นปี 2563
สถิติจากกระทรวงฯ และสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ ชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดของญี่ปุ่น ช่วง 6 เดือนแรก รวมอยู่ที่ 777,000 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 12,800 ราย
คณะผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านอกจากการเสียชีวิตโดยตรงจากโรคโควิด-19 แล้ว อัตราการเสียชีวิตส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นยังอาจมีสาเหตุจากการเสียชีวิตทางอ้อมจากโรคระบาดใหญ่ รวมถึงการเสียชีวิตจากโรคอื่น ๆ
เนื่องด้วยเข้าไม่ถึงสถานพยาบาล การเจ็บป่วยเรื้อรังที่เลวร้ายลงเพราะวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการฆ่าตัวตายเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ
กระทรวงสาธารณสุขฯ ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคและอุบัติเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากโรคโควิด-19 นั้นลดลง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างครอบคลุม ขณะโรคระบาดอุบัติขึ้นในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นพบผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.43 ล้านรายในปี 2564 ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่บันทึกไว้ในช่วงหลังสงคราม เนื่องด้วยสารพัดปัจจัย รวมถึงการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลต้า
โดยคณะผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในปี 2565 มีแนวโน้มสูงกว่าปี 2564 เพราะผลกระทบของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ "อัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน" ซึ่งบ่งชี้จำนวนผู้เสียชีวิตจริงในช่วงเวลาหนึ่งสูงกว่าคาดการณ์มากเพียงใด เป็นดัชนีทั่วไปที่ใช้ศึกษาผลกระทบของการระบาดที่เกิดจากโรคติดเชื้อ.
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP