เช็กกันหน่อย! มีอาการแบบนี้ อาจเสี่ยงโควิดลงปอดได้
ปัจจุบันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนจะมีอาการมากน้อยแตกต่างกันไป เช่น ภูมิคุ้มกัน และโรคประจำตัวของผู้ป่วย และอย่าลืมสังเกตอาการตนเอง เมื่อรู้สึกแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลียระดับออกซิเขนในเลือดลดน้อยลงกว่าระดับปกติ ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเสมอว่า เชื้อโควิดลงปอดได้
โดย นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นสามารถแพร่ได้ผ่านการสูดดมเข้าทางโพรงจมูกเข้าไปสู่ปอด จากการไอ จาม เสมหะ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยอาจไม่มีอาการหรือมีอาการทั่วไป เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงของโรคและเชื้ออาจลงสู่ปอดได้ คือ ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีโรคร่วม ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ดังนั้น กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จึงควรระมัดระวังตนเองมากเป็นพิเศษกว่าคนปกติทั่วไป เพราะหากเชื้อลงสู่ปอดแล้ว อาจส่งผลต่อระบบภายในอื่น ๆ ของร่างกายได้
ปอดในร่างกายสำคัญอย่างไร?
อย่าลืมว่า ปอดในร่างกายมีหน้าที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนในเลือด ถ้าผู้ป่วยโควิด-19 พบว่าเชื้อลงสู่ปอดจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการ ดังนี้
- หอบเหนื่อย
- หายใจไม่อิ่ม
- เจ็บแน่นหน้าอก
- ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง
หากระดับออกซิเจนในเลือดลดลงมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น?
ยกตัวอย่าง ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงในส่วนของสมองน้อยลง จะทำให้เกิดภาวะซึม รู้สึกอ่อนเพลีย โดยในเกณฑ์ปกติระดับออกซิเจนในเลือดของร่างกายจะอยู่ที่ระดับ 97-100% (เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว) หรือหากต้องการเช็คอาการว่าโควิด-19 ลงปอดหรือยัง ลองให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินไวในระยะเวลา 6 นาที เพราะการเดินไว 6 นาที พอเพียงที่จะแสดงความผิดปกติ ของการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ซึ่งเมื่อเกิดความผิดปกติในถุงลมในปอด (Alveoli) จะทำให้มีการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนลดลง
ดังนั้น หากมีโรคเกี่ยวกับปอดหรือเชื้อลงปอด จะทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดน้อยลงกว่าระดับปกติ
โควิดลงปอด อันตราย?
สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แพทย์จะดำเนินการรักษาตามอาการ และในผู้ที่มีอาการรุนแรงเชื้อลงปอด ผู้ป่วยจะได้รับยาต้านไวรัส ซึ่งยาต้านไวรัสจะเข้าไปฆ่าเชื้อไวรัส หยุดยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวเพิ่มเติมและทำลายเซลล์อื่นๆ นอกจากนี้แพทย์จะจ่ายยาต้านการอักเสบเพื่อลดกระบวนการอักเสบในร่างกายร่วมกับการให้ยารักษาตามอาการควบคู่กันไป
ในกรณีผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการรุนแรง มีปอดอักเสบร่วมด้วยและปอดอักเสบมีปัญหาทั้ง 2 ข้าง แพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ เพราะการนอนคว่ำจะสามารถช่วยให้ปอดขยายได้ดีขึ้น การนอนคว่ำจะมีผลทำให้ปอดไม่มีตัวเบียดดัน ปริมาณเนื้อปอดจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น เมื่อผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวจนหายดีแล้วปอดจะกลับมาเป็นเหมือนคนปกติ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดความรุนแรงของโรค ช่วยให้อาการป่วยเบาลง สามารถหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้นมากกว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน
อย่ามองข้ามอาจเสี่ยงโควิดลงปอดได้
สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลตนเองในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ เราทุกคนต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
- ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แม้กระทั้งอยู่บ้านร่วมกับคนในครอบครัว
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ
- เว้นระยะห่าง
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่แออัด
- เลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
- ทำให้ร่างกายตนเองแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพราะถ้าทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอัตราการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้อีกด้วย
ข่าวเกี่ยวข้อง :
- โรคความดันโลหิตสูง ต้องเตรียมตัวฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างไร
- โรคอัลไซเมอร์ กับ ภาวะสมองเสื่อม เหมือนกันหรือไม่ เป็นแล้วฉีดวัคซีนโควิดได้ไหม?
- “เบาหวาน-ความดัน-โรคหัวใจ” กลุ่มโรค NCDs ที่ร้ายแรงกว่าโควิด-19
- อาการโรคตับ เริ่มแรกจะรู้ได้อย่างไร ? วัด Level กันหน่อย